ชาวนา 3 จังหวัด "สุพรรณบุรี-สิงห์บุรี-ชัยนาท" ส้มหล่นประเดิมปลูกข้าว "กข79" หมื่นไร่ นำร่อง-ทดลองขายก่อน ชี้! ดี สั่งกดปุ่มเปิดทั้งประเทศปี 63 ด้าน นายกฯโรงสีป้องข้าวหอมปทุม หวั่น! เสียพื้นที่เดิม ชี้! ตลาดดีแล้ว ไม่ควรแตะ ให้เปิดเกมรุกไล่พื้นที่ข้าวขาวชนิดพื้นแข็งให้เหลือน้อย หวังอนาคตยกระดับราคาข้าวทุกชนิดให้ราคาปรับสูงขึ้น
สืบเนื่องจากผลสรุปการประชุม 5 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว ประชุมโครงการผลิตและตลาดข้าวนุ่มครบวงจร โดยมี นายประสงค์ ประไพตระกูล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการข้าว เป็นประธาน ซึ่งในที่ประชุมมีผลสรุปสำคัญ กล่าวคือ จะ "ปลูกข้าวพันธุ์ กข79" ทดลองตลาดหมื่นไร่ โดยใช้พื้นที่ภาคกลางในเขตชลประทานนำร่องก่อนนั้น
นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" อย่างตรงไปตรงมา ถึงข้าว กข79 หากให้ปีหน้า 2563 ปลูกพร้อมกันทั่วประเทศ แล้วตลาดไม่ตอบ จะเกิดปัญหาส่งผลสะท้อนกลับไปสู่ชาวนาได้ เพราะฉะนั้น ในเวลานี้ควรจะให้ชาวนาใน จ.ชัยนาท สุพรรณบุรี และสิงห์บุรี ซึ่งมีพื้นที่เหมาะอยู่ในเขตชลประทาน แล้วใกล้โรงสีที่ผลิตข้าว ได้ทดลองสีแปรแล้วส่งให้กับผู้ส่งออกไปทดลองตลาดขายก่อน เมื่อมีความชัดเจนแล้วตลาดตอบรับอย่างไรจะส่งสัญญาณกลับมาว่าจะปลูกทั้งประเทศหรือไม่ เพราะขณะนี้ ยังไม่ทราบว่า ตลาดจะตอบรับหรือไม่ อีกด้านก็เป็นการตอบโจทย์เรื่อง "ตลาดนำการผลิต"
"นับว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะมีการพัฒนาร่วมกัน ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะกรมการข้าว สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย เกษตรกร และสมาคมผู้รวบรวมฯ ที่เห็นพ้องกันว่าจะต้องเป็นข้าว กข79 นั้น เพราะเป็นพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูง เป็นข้าวนุ่ม ที่มองว่า ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ต้องข้าวคุณลักษณะชนิดมาก ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ไทยจะฉวยจังหวะที่เวียดนามกำลังมีปัญหา นำข้าวชนิดนี้ไปขายแข่งได้ ถ้าประสบความสำเร็จนี้ ข้าวนี้จะทำให้ชาวนาสามารถปลูกแล้วขายได้ราคาดี"
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน ไทยมีพันธุ์ชนิดข้าวขาว 5% พื้นแข็งจำนวนมาก หากนำข้าวชนิดไปปลูกแทน (หมายถึงตลาดตอบรับแล้ว) เมื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดสมดุล จะทำให้อนาคตข้าวขาว 5% ที่มีราคาค่อนข้างต่ำ จะค่อย ๆ ขยับราคาตามไปด้วย เนื่องจากพื้นที่ปลูกลดน้อยลงนั่นเอง ขณะที่ ข้าวหอมปทุมธานี 1 ตลาดดี มีราคารองรับอยู่แล้ว ต้องป้องกันอย่าให้ข้าวพันธุ์นี้เข้าไปผสม หรือ ทำให้มีการปลอมปน จะทำให้ตลาดในอนาคตเสียได้เช่นเดียวกัน ต้องควรระวัง ดังนั้น พื้นที่ 1 หมื่นไร่ ที่จะทดลองปลูกนั้น ต้องมีกฎกติกาที่เข้ม!!
อนึ่ง เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณารับรองพันธุ์ข้าว ครั้งที่ 1/2562 มีมติรับรอง "พันธุ์ข้าว กข79" ซึ่งเป็นข้าวพื้นนุ่ม ที่มีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 118 วัน โดยวิธีปักดำ มีคุณภาพเมล็ดทางกายภาพดี เมล็ดเรียวยาว ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดีมาก สามารถผลิตเป็นข้าวสาร 100% ชั้น 1 ได้ เป็นข้าวอมิโลสต่ำ 16.82% ข้าวสุกนุ่ม ให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 809 กิโลกรัมต่อไร่ ศักยภาพสามารถให้ผลผลิตสูง 1,182 กิโลกรัมต่อไร่ มีเสถียรภาพผลผลิตดี ค่อนข้างต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและโรคไหม้ แต่อ่อนแอต่อโรคขอบใบแห้งและเพลี้ยกระโดดหลังขาว เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาชลประทานภาคเหนือและภาคกลาง