WHA ดึง 'จีน' ลงทุนเฉียด 2 หมื่นล้าน ผลิต "ยางล้อรถยนต์" หนุนอีอีซี
'ดับบลิวเอชเอ' ลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินรายแรกในนิคมอุตสาหกรรม "ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3" แห่งที่ 10 ของกลุ่ม WHA ในพื้นที่อีอีซี กับบริษัท พรินซ์ เฉิงซาน ไทร์ (ประเทศไทย) ในเครือเฉิงชาน กรุ๊ป จากประเทศจีน บนที่ดิน 280 ไร่ ตั้งโรงงานผลิตยางล้อรถยนต์เป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ด้วยงบลงทุนเฉียด 2 หมื่นล้านบาท คาดเปิดดำเนินการผลิตได้ราวกลางปี 63
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินกับ บริษัท พรินซ์ เฉิงซาน ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือเฉิงซาน กรุ๊ป จากประเทศจีน เนื้อที่ 280 ไร่ (44.8 เฮกตาร์) ในนิคมอุตสาหกรรม "ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3" (WHA ESIE 3) เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตยางล้อรถยนต์ของบริษัทเป็นแห่งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือน เม.ย. นี้ และที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการผลิตได้ราวกลางปี 2563 นี้
สำหรับนิคมฯ ดังกล่าว ถือเป็นนิคมฯ ใหม่ล่าสุด ลำดับที่ 10 ในประเทศไทยของ "ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป" ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี มีพื้นที่ราว 2,198 ไร่ พร้อมด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและบริการด้านอุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐานระดับโลก เตรียมรองรับนักลงทุนจากภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยอื่น ๆ
ทั้งนี้ การเข้ามาลงทุนในประเทศไทยของ "พรินซ์ เฉิงซาน" ถือเป็นลูกค้ารายแรกที่เข้ามาลงทุนในนิคมฯ แห่งนี้ และถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ บ่งบอกถึงศักยภาพของพื้นที่เขตอีอีซีในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้อย่างเด่นชัด และเราก็คาดว่าจะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม "ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3" เพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งคิดเป็นเม็ดเงินลงทุนได้ราว 140,000 ล้านบาท (4.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า
นายเชอ หงจื้อ ประธานบริษัท เฉิงซาน กรุ๊ป กล่าวว่า "หลังจาก 2 ปี ที่บริษัทได้เฟ้นหาและคัดเลือกทำเลสำหรับตั้งฐานการผลิต พบว่า ไทยเป็นประเทศที่โดดเด่นด้วยชื่อเสียงการเป็นที่ยอมรับในฐานะผู้นำทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นผู้ส่งออกยางธรรมชาติรายใหญ่ของโลกด้วย โครงการอีอีซีและนิคมอุตสาหกรรม "ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3" มีจุดเด่นสำคัญในด้านทำเลที่ตั้ง รวมถึงทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกและมาตรฐานบริการระดับสูง ระบบโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐานที่สะดวกสบาย ซึ่งส่งเสริมให้พื้นที่นิคมฯ นี้ มีความโดดเด่นเหนือทำเลอื่นเป็นอย่างมาก ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการลงทุนที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้กับผลิตภัณฑ์ของ "พรินซ์ เฉิงซาน"
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้เงินลงทุนสำหรับโครงการนี้ ราว 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.9 หมื่นล้านบาท ในการจัดซื้อที่ดินและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและวางสายการผลิต โดยระยะแรกตั้งเป้ากำลังการผลิตยางเรเดียลสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (PCR) ไว้ที่ 4 ล้านเส้นต่อปี และยางเรเดียลสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสาร (TBR) 8 แสนเส้นต่อปี โดยจะใช้พนักงานในช่วงแรก จำนวน 1,200 อัตรา และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกินกว่า 2,000 อัตรา และในระยะ 5 ปี จะเพิ่มกำลังการผลิตยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็น 10 ล้านเส้นต่อปี และยางสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสารเป็น 2 ล้านเส้นต่อปี เป็นการผลิตเพื่อส่งออกราว 90% ไปยังสหรัฐฯ และยุโรป ส่วนอีก 10% จะขายในประเทศไทย โดยจะเริ่มก่อสร้างโรงงานในเดือน เม.ย. 2562 นี้ และเปิดดำเนินการได้ในปี 2563
สำหรับโรงงานผลิตยางล้อรถยนต์แห่งนี้ หากผลิตเต็มกำลังการผลิตที่ 12 ล้านเส้นต่อปี จะส่งผลให้เกิดการใช้ยางพาราภายในประเทศได้ 1.8 แสนตันต่อปี เป็นอย่างต่ำ
