'ชัชชาติ' ดัน "ไฮสปีดเทรน" เชื่อมเมืองไทย ภายใน 3 ชม.

07 มี.ค. 2562 | 14:50 น.

'ชัชชาติ' ชูแก้ปัญหา Smart Mobility ต้องแก้ที่ระบบขนส่งสาธารณะให้สมบูรณ์ ปลอดภัย ออกแบบผังเมืองที่สอดคล้องกับระบบคมนาคม ชี้! 'เพื่อไทย' จะเชื่อมการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงให้ทั่วทั้งประเทศภายใน 3 ชั่วโมง

วันที่ 7 มี.ค. 2562 - "ฐานเศรษฐกิจ" จัดสัมมนาเรื่อง "พลิกโฉมไทย เปิดประตูสู่เศรษฐกิจนวัตกรรม" ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลกรุงเทพ โดยในหัวข้อ "โฉมหน้า Smart Mobility ประเทศไทยยุคใหม่ หลังเลือกตั้ง"
 

'ชัชชาติ' ดัน "ไฮสปีดเทรน" เชื่อมเมืองไทย ภายใน 3 ชม.


รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมช.กระทรวงคมนาคม และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คำว่า "Smart Mobility" หมายถึง สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และประหยัด แต่ประเทศไทยกลับมีคนตายจากอุบัติเหตุสูงถึงระดับที่ 2 ของโลก ประมาณ 32 คนต่อ 1 แสนคน ค่าเสียหาย 5.4 แสนล้านบาท และใน 33 วัน เรานั่งอยู่บนรถที่ติดถนน 1 ปี เป็นมูลค่ามหาศาล

ปัญหาที่เกิดขึ้นเราจะแก้อย่างไร ปัญหามาจากการขนส่งสาธารณะเป็นหัวใจสำคัญ ผังเมืองของเราจะมีหมู่บ้าน เมื่อคนอออกจากบ้าน จะออกมาท้องถนน ทำให้รถติด พอมีรถไฟฟ้าการจราจรจะดีขึ้น ซึ่งในอนาคตต้องการได้ในรูปแบบการจราจรที่มีรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าในเมือง และฟีดเดอร์

แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน มีเมือง มีบ้าน มีศูนย์การค้า อยู่ตามถนน ทำให้มีรถติดตามทุกเส้นทาง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและขนส่งคมนาคมจึงทำได้ยาก การเดินทางโดยรถเมล์ง่ายสุด และจะทำให้เกิด Smart Mobility


นอกจากนั้น ปัญหาที่ทำให้รถติดมาจากสำนักงานในเมืองที่มีมากถึง 8,700,000 ตารางเมตร อยู่ในใจกลางเมือง อีก 5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่ บ้านอยู่นอกเมือง ที่ทำงานอยู่ในเมือง ทำให้รถติด เพราะการเดินทางที่ใช้รถส่วนตัวมากกว่ารถสาธารณะ ดังนั้น รถติดในกรุงเทพฯ เพราะเราไม่ใช้รถสาธารณะ ที่ไม่ใช้ เพราะไม่สะดวก รถไฟฟ้าก็ไม่เชื่อมต่อกัน สรุปว่า การขนส่งสาธารณะเราไม่ดี จะเห็นได้ว่า เราใช้รถยนต์ 2 คนต่อ 1 คัน เราใช้รถเมล์วันละ 250,000 คน, BTS เกือบ 700,000 คน, MRT เกือบ 300,000 คน, เรือด่วนเจ้าพระยา 40,000 คน จะเห็นได้ว่า หัวใจการแก้ไข คือ รถเมล์ ไม่ใช่รถไฟฟ้า เราต้องทำให้รถเมล์เข้มแข็ง เมื่อเข้าใจปัญหา เราจะแก้ไขได้ วิธีเร่งด่วนในการสร้าง Smart Mobility คือ จัดหารถเมล์ให้มากขึ้น บริหารจัดการให้ดีขึ้น ปัจจุบัน รถเมล์มอายุ 20 ปี เป็นส่วนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุของ PM 2.5

ปัญหาของ Smart Mobility คือ ระบบราชการที่มีกฎหมายไม่เอื้อ Smart Mobility มีรูปแบบซับซ้อนกันและระบบราชการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง การดูแลถนนใน กทม. ไม่ว่า ขสมก., ตำรวจ, การทางพิเศษ, รฟม. ต่อให้เทคโนโลยีฉลาดแค่ไหนก็ไม่สามารถทำงานได้ เพราะมีหน่วยงานซับซ้อนกัน เรื่องคุณภาพชีวิตปัจจุบัน ที่อยู่อาศัยใน กทม. แพงมาก ค่าเดินทางแพง ทำให้ความเหลื่อมล้ำมากขึ้น เพราฉะนั้น Smart Mobility ต้องแก้ที่เรื่องเล็ก เพราะเราใช้ค่าใช้จ่ายและเวลามากขึ้นกับการเดินทาง

รศ.ดร.ชัชชาติ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ ต้องมีระบบฟีดเดอร์ที่ดีและการเดิน ทำให้ กทม. เป็นเมืองเดินได้อย่างน้อย 800 เมตร เช่น ของในจุฬาฯ มีรถไฟฟ้าแบบคันเดียวและรถจักรยานในธรรมศาสตร์มาเป็นตัวช่วยในฟีดเดอร์ นอกจากนั้น ใช้ระบบเทคโนโลยีมาช่วยเติมเต็มระบบฟีดเดอร์

รศ.ดร.ชัชชาติ สรุปว่า พรรคเพื่อไทย เราจะทำง่าย ๆ คือเชื่อมโยง ปลอดภัย ทันสมัย และสร้างมูลค่า ที่ว่าทันสมัย หลายโครงการ เช่น รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง เร่งรัดโครงการรถไฟสายใหม่ เด่นชัย เชียงรายnเชียงของ บ้านไผ่ มุกดาหาร นครพนม เร่งรัดการจัดหาหัวรถจักรและโบกี้รถไฟ เพื่อเพิ่มความสามารถในการบริการให้ประชาชน, ดำเนินการรถไฟความเร็วสูงที่มีการเริ่มไปแล้ว ได้แก่ สายอีสานและสายตะวันออก, ศึกษารถไฟความเร็วสูงสายเหนือและสายใต้, ปรับปรุงการเชื่อมโยงระบบรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ให้สอดคล้องกับการเชื่อมโยงในภูมิภาค

"เราเชื่อว่า เราจะเชื่อมประเทศไทยทั้งประเทศภายใน 3 ชั่วโมงให้ได้ ส่วนเรื่องรถไฟ 3 สนามบินนั้น เชื่อว่า สนามอู่ตะเภามาแทนสนามบินสุวรรณภูมิไม่ได้ เพราะมันคนละกลุ่มเป้าหมายกัน" รศ.ดร.ชัชชาติ กล่าว

'ชัชชาติ' ดัน "ไฮสปีดเทรน" เชื่อมเมืองไทย ภายใน 3 ชม.