พีทีจีตั้งเป้ากำไรนอนออยล์เพิ่มเป็น60%

23 ส.ค. 2560 | 10:05 น.
นายพิทักษ์ รัชกิจประการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือพีทีจี เปิดเผยว่า บริษัทตั้งกำไรสุทธิจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์) สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 60% ภายในปี 2565 จากปัจจุบันอยู่ที่เพียง 2-3% เท่านั้น  เนื่องจากต้องการกระจายความเสี่ยง เพราะขณะนี้รายได้แบกำไรส่วนใหญ่ยังคงมาจากธุรกิจน้ำมัน ประกอบกับค่าการตลาดน้ำมันค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับธุรกิจนอนออยล์ โดยบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายราย และตั้งเป้าจะต้องเพิ่มธุรกิจนอนออยล์ใหม่ๆ 2-3 ธุรกิจต่อปี

โดยในปี 2560 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 5 พันล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจน้ำมัน 3.5 พันล้านบาท และสำหรับธุรกิจนอนออยล์อีก 1.5 พันล้านบาท โดยจะเน้นธุรกิจด้านอาหารและการบริการ เพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สำหรับยอดสมาชิกบัตร PT Max Card จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.6 ล้านสมาชิก จะเพิ่มเป็น 17 ล้านสมาชิก ในปี 2565

พิทักษ์ รัชกิจประการ

สำหรับการขยายธุรกิจน้ำมัน บริษัทตั้งเป้าขยายสถานีบริการน้ำมันพีที จากปัจจุบันกว่า 1,500 แห่ง เพิ่มเป็น 1,800 แห่งภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเพิ่มเป็น 4,000 แห่งภายในปี 2565 ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของประเทศ

โดยบริษัทฯได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้น และสัญญาร่วมทุนกับบริษัท ออโต้แบคส์ เซเว่น จำกัด และ บริษัท สยาม ออโต้แบคส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรคุณภาพอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ “AUTOBACS” ด้วยการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท สยาม ออโต้แบคส์ จำกัด ในสัดส่วน 38.26% คิดเป็นมูลค่า 65 ล้านบาท โดยภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นของสยาม ออโต้แบคส์แล้วนั้น จะส่งผลให้ศูนย์บริการรถยนต์ AUTOBACS จะเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการขยายศูนย์บริการในประเทศไทย โดยบริษัทฯมุ่งหวังที่จะเพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจนอนออยล์ ให้เพิ่มสูงขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาธุรกิจน้ำมันแต่เพียงอย่างเดียว

สำหรับในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายศูนย์บริการรถยนต์ AUTOBACS ในสถานีบริการน้ำมันพีที จำนวน 5 สาขา และขยายนอกสถานีบริการน้ำมันอีกจำนวน 10 สาขา ซึ่งการขยายสาขาดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ AUTOBACS และผู้ที่เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการน้ำมันพีที ให้เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันบริษัทยังไม่มีศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรในสถานีบริการน้ำมัน และที่สำคัญจะสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าที่ถือบัตรสมาชิก PT Max Card ให้เพิ่มสูงขึ้น และต่อยอดการให้บริการกับสมาชิกได้อย่างหลากหลาย ครบวงจร และมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น