ราชบุรีโฮลดิ้งมั่นใจปีนี้บรรลุเป้า7.5พันเมกะวัตต์

11 ส.ค. 2560 | 08:37 น.
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การดำเนินงานปีนี้ มุ่งหมายเพิ่มกำลังผลิตให้เติบโตถึง 7.5 พันเมกะวัตต์ ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ สามารถดำเนินงานก้าวหน้า 98% เมื่อเทียบกับเป้าหมายของปีนี้ สำหรับกำไรที่เติบโตขึ้นสะท้อนถึงประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าที่สามารถสร้างผลตอบแทนดีขึ้น และคาดว่าเป้าหมายปีนี้จะสามารถดำเนินการได้สำเร็จ เพราะยังมีโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประมาณ 1 พันเมกะวัตต์ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งบางโครงการมีความเป็นไปได้ที่จะข้อสรุปในปีนี้

"แนวโน้มการดำเนินงานปีนี้ จะมุ่งเน้นเพิ่มกำลังผลิตจากการลงทุนใหม่ในธุรกิจผลิตไฟฟ้า พลังงานทดแทน โครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน และธุรกิจอื่นนอกภาคพลังงานและไฟฟ้า โดยเป้าหมายการลงทุนครอบคลุมประเทศอาเซียนและจีน ซึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อนื่อง ขณะเดียวกัน ก็รักษาการเติบโตของรายได้จากการบริหารประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าหงสา (1.87 พันเมกะวัตต์) ในสปป.ลาว ซึ่งปีนี้กำหนดค่าความพร้อมจ่ายเทียบเท่า (Equivalent Availability Factor) ไว้ที่ประมาณ 80% นอกจากนี้ ยังต้องควบคุมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 4 แห่ง กำลังผลิตรวม 517 เมกะวัตต์ให้คืบหน้าตามแผนงาน โดยโรงไฟฟ้าพลังงานลมเมาท์เอเมอรัลด์ กำลังผลิตตามการถือหุ้น 144.36 เมกะวัตต์ ในออสเตรเลีย มีกำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2561" นายกิจจากล่าว

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ 360 เมกะวัตต์ เทียบเท่า ส่งผลให้กำลังผลิตรวมเติบโตขึ้นเป็น 7.37 พันเมกะวัตต์เทียบเท่า จากการลงทุนใน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีเหลือง กำลังผลิตเทียบเท่า 191 เมกะวัตต์ โครงการพลังงานความร้อนร่วม Riau ในอินโดนีเซีย กำลังผลิตตามการถือหุ้น 134.75 เมกะวัตต์ และโครงการ Collinsville Solar PV กำลังผลิตตามการถือหุ้น 34 เมกะวัตต์

กิจจา1

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการที่สร้างอีก 4 แห่ง รวมกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 517 เมกะวัตต์ ซึ่งมีความคืบหน้าตามแผนงานที่วางไว้ ประกอบด้วย โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมเมาท์เอเมอรัลด์ ในออสเตรเลีย กำลังผลิตตามการถือหุ้น 144.36 เมกะวัตต์ กำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปี 2561 โครงการพลังงานน้ำเซเปียน เซน้ำน้อย ใน สปป.ลาว กำลังผลิตตามการถือหุ้น 102.5 กำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์  ปี 2562  เช่นเดียวกับโครงการเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น จังหวัดราชบุรี กำลังผลิตตามการถือหุ้น 34.73 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง ระยะที่ 2 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน กำลังผลิตตามการถือหุ้น 236 เมกะวัตต์ มีกำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ในปี 2564

สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้จำนวน 2.3 หมื่นล้านบาท หากไม่รวม  ค่าเชื้อเพลิงจากบริษัทย่อย รายได้รวมมีจำนวน 7.95 พันล้านบาท ซึ่งรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและสัญญาทางการเงินมีสัดส่วน 71.6% ของรายได้รวม และรายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้ามีสัดส่วน 24.0% เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลจากส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้าหงสา ด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม  มีจำนวน1.99 หมื่นล้านบาท ลดลง 18%

ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 9.7 หมื่นล้านบาท หนี้สินจำนวน 3.3 หมื่นล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 6.3 หมื่นล้านบาท กำไรสะสมจำนวน 5 หมื่นล้านบาท