ผู้ส่งออกไทยมีเฮสหรัฐฯประกาศคงสิทธิพิเศษฯGSP ให้สินค้าไทย

11 ก.ค. 2560 | 05:48 น.


ในการทบทวนโครงการ GSP สหรัฐฯ ประจำปี 2559 หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศเพิ่มรายการสินค้าในบัญชีรายการที่ได้รับสิทธิพิเศษฯ GSP ได้แก่ กระเป๋าถือและกระเป๋าเดินทาง (Travel Goods) และสินค้าเซลลูโลสไนเทรต (Cellulose nitrates) ไปแล้ว ยังมีประกาศคงสิทธิพิเศษฯ สินค้ามีมูลค่านำเข้าสหรัฐฯ ต่ำกว่ามูลค่าขั้นต่ำ (De Minimis Value) ที่สหรัฐฯ กำหนดอีกจำนวน 7 รายการ ดังนั้น ในการทบทวนโครงการ GSP ไทยได้รับเพิ่มเติมและได้รับคงสิทธิพิเศษฯ GSP รวมทั้งสิ้น 31 รายการ ส่งผลให้สินค้าที่ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ จะได้รับการยกเว้นภาษีเพิ่มขึ้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป

12. (4)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าภายหลังจากที่สหรัฐฯประกาศ ให้สิทธิพิเศษฯ GSP แก่สินค้าสินค้ากระเป๋าถือและกระเป๋าเดินทาง (พิกัด 4202) จำนวน 23 รายการ  และสินค้าสินค้าเซลลูโลสไนเทรต (พิกัด 3912.20.00) จำนวน 1 รายการ  ซึ่งเป็นผลจากการที่กระทรวงพาณิชย์พยายามผลักดันจากการประชุม TIFA และหารือกับผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ดังของสหรัฐฯ ทำให้การลงทุนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และการส่งออกสินค้ากลุ่ม Travel Goods สามารถแข่งขันได้ เป็นผลต่อเนื่องจากการดำเนินการโน้มน้าวสหรัฐฯของกระทรวงพาณิชย์ยังมีผลให้ไทยสามารถรักษาสิทธิพิเศษฯ GSP กรณีสินค้าไทยที่มีส่วนแบ่งตลาดนำเข้า จากสหรัฐฯ เกินร้อยละ 50 แต่มูลค่าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากทั่วโลกในแต่ละรายการต่ำกว่ามูลค่าขั้นต่ำที่สหรัฐฯ กำหนด

bag

โดยในปี 2559 กำหนดไว้ที่ 23.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (De Minimis Value)  อีกจำนวน 7 รายการ    ยังคงได้รับสิทธิพิศษฯ GSP ต่อไป การที่ไทยยังคงสามารถรักษาสิทธิพิเศษฯ GSP จากการร้องขอกรณี De Minimis Waiver ของกระทรวงพาณิชย์  ซึ่งทั้งหมดเป็นสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปที่เป็นสินค้าอ่อนไหวสูงของไทย สินค้าดังกล่าวมีอัตราอากรขาเข้าสหรัฐฯ อยู่ระหว่างร้อยละ 1.8 - 8  ในการประกาศคงสิทธิพิเศษฯ GSP จะทำให้ไทยยังคงได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯต่อไป  โดยในปี 2559 ไทยมีมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ รวมกว่า 32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ การที่ไทยได้รับการผ่อนผันการระงับสิทธิพิเศษฯครั้งนี้  ขอเชิญชวนให้ผู้ส่งออกไทยในกลุ่มสินค้าดังกล่าวเร่งใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษฯ GSP ที่ไทยยังคงได้รับให้มากที่สเพื่อเพิ่มมูลค่าส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ให้มากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ โดยรวมของประเทศด้วย