หยุดผลิตปิโตรเลียมยังไม่กระทบโรงกลั่น

16 มิ.ย. 2560 | 10:04 น.
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และในฐานะประธานกรลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การที่แหล่งปิโตรเลียมในพื้นที่ ส.ป.ก.ต้องหยุดผลิต ส่งผลกระทบต่อน้ำมันดิบที่ส่งเข้าโรงกลั่นน้ำมันไม่มากนัก เนื่องจากคิดเป็นปริมาณทั้งสิ้น 1.5-1.6 หมื่นบาร์เรลต่อวันเท่านั้น เทียบกับความต้องการใช้ของประเทศรวมอยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ทั้งนี้ทางบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ในฐานะผู้จัดสรรน้ำมันดิบให้กับโรงกลั่นน้ำมันแต่ละแห่ง อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดสรรน้ำมันดิบใหม่ เนื่องจากกำลังการผลิตในประเทศหายไปบางส่วน แต่เชื่อว่าโรงกลั่นน้ำมันจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว เนื่องจากสามารถจัดหาน้ำมันดิบจากส่วนอื่น หรือจากการนำเข้ามาทดแทนได้

“โรงกลั่นไออาร์พีซีเตรียมรับมือโดยนำน้ำมันดิบจากตะวันออกไกลเข้ามาทดแทนได้ โดยมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาของประเทศมากกว่า เพราะทางโรงกลั่นน้ำมันสามารถนำเข้าน้ำมันดิบมาทดแทนส่วนนี้ได้ แต่ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นก็จะตกอยู่ที่ประเทศ โดยอาจมีหารหารือภายในกลุ่มโรงกลั่นฯต่อไป”นายสุกฤตย์ กล่าว

Refinery นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า ปตท.สผ.คาดหวังให้ภาครัฐเร่งหาทางออกในเรื่องนี้โดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ช่องทางตามกฎหมายปกติ หรือ การใช้อำนาจตาม ม.44 ก็ตาม เพราะการหยุดผลิตปิโตรเลียมโครงการเอส 1 แหล่งสิริกิติ์ ที่บริษัท ปตท.สผ.สยาม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ปตท.สผ. ถือหุ้น 100% ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. 2560 ส่งผลให้ปริมาณการขายน้ำมันดิบลดลงประมาณ 1.5 หมื่นบาร์เรลต่อวัน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ลดลงประมาณ 130 ตันต่อวัน และก๊าซธรรมชาติลดลงประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่งผลกระทบต่อยอดขายไม่มากนัก 4-5% จากปีนี้ตั้งเป้ายอดขายปิโตรเลียมอยู่ที่ 3 - 3.1 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ