สมคิดดึงฮ่องกงร่วมพัฒนาเอสเอ็มอี

27 เม.ย. 2560 | 11:23 น.
“สมคิด” ดึงสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ลงนามเอ็มโอยู 3 กรอบกิจกรรม เชื่อมโยงพัฒนาเอสเอ็มอีร่วมกัน โดย HKTDC มอบสิทธิ์ทดลองประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์เป็นเวลา 12 เดือนแก่ผู้ประกอบการไทย 200 ราย

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในการเดือนทางเยือนฮ่องกงระหว่างวันที่ 26-30 เมษายน 2560 โดยมีนายสมคิด จาจุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นหัวหน้าคณะนั้น ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู) เรื่องความร่วมมือในการส่งเสริมธุรกิจ SMEs กับองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council) หรือ HKTDC โดยมีกรอบกิจกรรม 3 ด้าน ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการส่งเสริมพัฒนา SMEs การจัดกิจกรรมส่งเสริม SMEs ร่วมกัน และการสัมมนาและประชาสัมพันธ์

นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมสินค้าของประเทศไทยไปยังตลาดทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ทางการค้าออนไลน์ www.hktdc.com โดยมุ่งส่งเสริมการค้าการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการในงานสร้างสรรค์และออกแบบ (Creative Startup) อาทิ สาขาแฟชั่น เครื่องประดับแฟชั่น เครื่องใช้ในครัวเรือน ของขวัญและของชำร่วย ของเล่น งานหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน อาหาร สินค้าการเกษตร และสินค้าไลฟ์สไตล์

โดย HKTDC จะมอบสิทธิ์ในการทดลองประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์เป็นเวลา 12 เดือนแก่ผู้ประกอบการไทย 200 ราย รวมถึงโครงการ Thailand Access to International Markets Competition (Thai AIM) ซึ่งผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับโอกาสเข้าร่วมการฝึกอบรมและพัฒนาธุรกิจ และภายหลังจะได้ใช้แพลทฟอร์ม HKTDC Small Order Zone ในการรับคำสั่งซื้อจากนานาชาติ และ โครงการ SME Idol เป็นกิจกรรมอบรม SMEs ของไทยให้มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมอบรมดังกล่าวผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับโอกาสเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้านานาชาติของ HKTDC เพื่อให้ได้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อจากนานาชาติ

ในส่วนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank) เป็นหน่วยงานประสานให้เกิดความร่วมมือการพัฒนา SMEs โดยจะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกับ HKTDC ในการเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก HKTDC มาให้ความรู้หรือข้อมูลเกี่ยวกับฮ่องกงแก่ผู้ประกอบการไทยที่เป็นลูกค้าของธนาคาร เพื่อให้สามารถขยายช่องทางการตลาดไปสู่ต่างประเทศ และการเชื่อมโยงการค้าและการร่วมลงทุนระหว่างผู้ประกอบการ SMEs ไทย กับผู้ประกอบการ SMEs ฮ่องกงด้วย

นายอุตตม กล่าวอีกว่า คาดว่าการลงนามบันทึกความเข้าใจและการประชุมหารือดังกล่าวจะช่วยในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างไทยกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ในอนาคต ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการในการส่งเสริมรวมทั้งจะได้รับทราบปัญหาและอุปสรรคที่ผู้ประกอบการ SMEs ของทั้งสองประเทศประสบ และจะนำข้อมูลที่ได้นี้มาเป็นประโยชน์ในการส่งเสริม SME ไทย และฮ่องกง พร้อมทั้งจะได้ร่วมกันพัฒนากรอบความร่วมมือ และต่อยอดแนวทางที่ได้ดำเนินการไว้แล้วต่อไป

นอกจากการหารือถึงความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนา SMEs แล้ว ยังได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง สสว. และ HKTDC ด้วย โดย HKTDC ถือเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมเชื่อมโยงการค้าการลงทุนของฮ่องกง มีการจัดงานนิทรรศการในระดับสากลกว่า 30 งานต่อปี มีการจัดการเชื่อมโยงธุรกิจ Business Matching การสร้างช่องทางการขายผ่าน Online Marketplace รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้เข้าสู่ตลาดสากลด้วย