“กลินท์”นั่งประธานสภาหอการค้าฯควบอีก 1 ตำแหน่ง

26 เม.ย. 2560 | 12:44 น.
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ครั้งที่ 50  (26 เม.ย.ย60)พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ แทนคณะกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระลง โดยนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยได้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คนที่ 19

นายอิสระ  ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (26 เม.ย.60) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ครั้งที่ 50 ขึ้น เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา และได้จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แทนคณะกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระลง ซึ่งนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คนที่ 19 โดยมี นายจีรพันธ์  อัศวะธนกุล  ดำรงตำแหน่งกรรมการเลขาธิการ พร้อมทั้งคณะกรรมการชุดใหม่รวม 67 คน ซึ่งกรรมการชุดใหม่ดังกล่าวจะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี

สำหรับรายชื่อคณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่เข้ามาเป็นกรรมการชุดใหม่ ประกอบด้วย ผู้แทนจากหอการค้าไทย ผู้แทนหอการค้าจังหวัด ผู้แทนหอการค้าต่างประเทศ ผู้แทนสมาคมการค้า และผู้แทนรัฐวิสาหกิจและสหกรณ์

นายกลินท์  สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (คนใหม่) กล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนสมาชิกในเครือข่ายของสภาหอการค้าฯ ทั้งหมด มีประมาณ 1  แสนราย ดังนั้น การทำงานต่อจากนี้ จะมุ่งทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศและสมาชิก  ทั้งนี้ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ คือ “เป็นสถาบันหลักทางการค้าและบริการของประเทศ ที่ใช้ข้อมูล ความรู้ เครือข่าย และความร่วมมือที่เข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนประเทศไทย ให้เติบโตได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน” และได้กำหนดพันธกิจไว้ 5 ประการ สำหรับขับเคลื่อนองค์กร เพื่อให้บรรลุผลตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ ได้แก่

1.เสริมความสามารถในการแข่งขันและโอกาสทางการค้าและบริการให้กับผู้ประกอบการในทุกภาคส่วนด้วยข้อมูล นวัตกรรม และมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ  2.สร้างความเชื่อมโยงและร่วมมือ ให้เกิดความเข้มแข็งของเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก 3.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมตามแนวทางประชารัฐ และธรรมาภิบาลการดำเนินธุรกิจ ลดความเหลือมล้ำด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน 4.ต่อยอดความรู้และประสบการณ์ สร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ และ5.พัฒนาการบริหารจัดการองค์กรทั้งเครือข่าย ให้มีประสิทธิภาพและมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคม