หลังจากที่การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ได้กระจายไปทั่ว และมีผู้ที่ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้รัฐบาลมีมาตรการล็อกดาวน์ และออก “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” เพื่อควบคุมสถานการณ์ โดย 1 ในมาตาการสำคัญก็คือการให้ประชาชน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ซึ่งทำให้ประชาชนต้องทำงานที่บ้าน (Work From Home : WFH) เป็นหลัก สิ่งที่ตามาก็คือ “ค่าไฟ” ที่พุ่งพรวดแบบก้าวกระโดด
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าไฟพุ่งก็คือ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้น “ฐานเศรษฐกิจ” จึงต้องการนำเสนอวิธีการประหยัดใช้ไฟฟ้า เพื่อลดรายจ่าย โดยรวบรวมข้อมูลจาก “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” (กฟภ.) หรือ PEA
1.เครื่องปรับอากาศ (แอร์) ควรใช้ขนาด BTU เหมาะสมกับขนาดห้อง ตั้งอุณหภูมิไม่ควรต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส ควรใช้ผ้าม่านกั้นประตูหน้าต่างเพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอกและลดภาระการทำงานของเครื่อง และควรปิดเครื่องทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
2.เตารีด ควรรีดผ้าครั้งละมากๆ โดยเริ่มจากตั้งปุ่มปรับความร้อนให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า และอย่าพรมน้ำจนเปียกแฉะมาเกินไป ควรเริ่มจากการรีดผ้าบางๆ ก่อน ขณะที่เตารีดยังไม่ร้อน และดึงปลั๊กออกก่อนจะรีดเสร็จประมาณ 2-3 นาที แล้วรีดต่อไปจนเสร็จ
3.ไดร์เป่าผม เช็ดผมให้หมาดก่อนเป่า และควรขยี้หรือสางผมไปด้วยขณะเป่า
4.หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ควรหุงข้าวให้พอดีกับจำนวนผู้รับประทาน และควรถดอดปลั๊กออกทันทีเมื่อข้าวสุกแล้ว หมั่นตรวจบริเวณแท่นความร้อนในหม้อ อย่าให้เม็ดข้าวเกาะติด จะทำให้ข้าวสุกช้าและเปลืองไฟ
5.เครื่องซักผ้า ควรใส่จำนวนผ้าในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่น้อยเกินไปหรือไม่มากจนเกินกำลังเครื่อง หากมีแสงแดดไม่ควรใช้เครื่องอบแห้ง ควรจะนำเสื้อผ้าที่ซักเสร็จมาตากแดด
6.ตู้เย็น ตู้แช่ ตั้งอุณหภูมิพอสมควร นำของที่ไม่ร้อนใส่ตู้เย็น ปิดประตูตู้เย็นทันทีเมื่อนำของใส่หรือออก ควรใช้ตู้เย็นขนาดเหมาะกับครอบครัว ควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งความร้อน ให้หลังตู้ห่างจากฝาเกิน 15 ซ.ม. เพื่อระบายความร้อนได้สะดวก ไม่เปลืองไฟฟ้า ควรเก็บเฉพาะอาหารเท่าที่จำเป็น ตู้เย็นแบบประตูเดียวกินไฟน้อยกว่าแบบ 2 ประตู และหมั่นละลายน้ำแข็งเมื่อเห็นว่าน้ำแข็งเกาะหนามาก
7.พัดลม เปิดความเร็วลมพอควร รวมถึงเปิดเฉพาะเวลาใช้งาน และควรเปิดหน้าต่างใช้ลมธรรมชาติแทนถ้าทำได้