ครอบแก้วศาสตร์โบราณช่วยบำบัดโรค

01 มี.ค. 2559 | 13:00 น.
การรักษาโรคในแบบแพทย์ทางเลือกแบบจีนนั้น ที่ผ่านมาเรามักจะคุ้นหูกับการฝังเข็มเพื่อรักษาโรคต่างๆได้หลายแขนง การฝังเข็ม คือ การใช้เข็มแทงลงไปในผิวหนังเพื่อปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งจุดที่ทำการฝังเข็มนั้นจะอยู่ในแนวเส้นลมปราณตามศาสตร์ทางการแพทย์แผนจีนที่ถูกพัฒนามากว่า 4,000 ปี

โดยแพทย์ที่ทำการฝังเข็มนั้นจะต้องเป็นแพทย์เฉพาะทาง และเป็นผู้วินิจฉัยโรคก่อนทำการฝังเข็ม ทั้งนี้เข็มหลากหลายขนาดที่แพทย์นำมาใช้นั้นจะช่วยกระตุ้นตัวรับสัญญาณประสาท ช่วยให้กล้ามเนื้อคล้ายตัว ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้การฝังเข็มนั้นสามารถบำบัดโรคในกลุ่มอาการปวดต่างๆ รวมไปถึงการบำบัดโรคในกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับเส้นประสาท กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูก กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับภูมิแพ้ และกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง นอกจากการบำบัดอาการป่วยแล้วนั้น ฝังเข็มยังสามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใสรวมไปถึงช่วยเพิ่มความสูงได้อีกด้วย

[caption id="attachment_34244" align="aligncenter" width="377"] ครอบแก้ว ครอบแก้ว[/caption]

มาวันนี้อยากแนะนำอีกหนึ่งแขนงนั่นคือการครอบแก้ว...

ครอบแก้ว คือ การใช้แก้วที่ถูกทำให้เกิดภาวะสูญญากาศครอบลงไปในตำแหน่งที่ต้องการบำบัดโรคเพื่อขจัดสารพิษ เนื่องจากศาสตร์ทางการแพทย์แผนจีนนั้นเชื่อว่าอาการเจ็บป่วยต่างๆ มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายเกิดการสะสมของสารพิษเป็นเวลานาน หากไม่ทำการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย การบำบัดโรคนั้นใช้ระยะเวลานาน โดยจุดที่ทำการครอบแก้วจะอยู่ในแนวของเส้นลมปราณตามศาสตร์ทางการแพทย์แผนจีน ซึ่งแพทย์ที่มาทำการครอบแก้วต้องเป็นแพทย์เฉพาะทาง

การครอบแก้วนั้นนิยมทำที่บริเวณแผ่นหลังเนื่องจากเป็นจุดที่เส้นลมปราณ เชื่อมกับอวัยวะภายในร่างกาย เช่นหัวใจ ปอด ตับ ถุงน้ำดี ม้าม กระเพาะอาหาร ลำไส้ ไต และระบบประสาท จึงช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ช่วยเร่งการขับของเสียออกจากอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายและกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นการยกระดับภูมิต้านทานโรค ทำให้ร่างกายแข็งแรง การบำบัดด้วยการครอบแก้วนั้นควรทำเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และควรรับบริการควบคู่กับการฝังเข็มเพื่อประสิทธิภาพของการบำบัดอาการของโรค

โรคที่สามารถบำบัดได้ด้วยการครอบแก้ว ได้แก่โรคหอบหืด โรคเบาหวาน โรคหูคอจมูกปาก โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคความดันโลหิตสูง โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปวดศีรษะไมเกรน โรคผิวหนัง เช่นสิว ฝ้า ครอบแก้วยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพในด้านกำจัดสารพิษในร่างกาย กำจัดโลหะหนักที่ตกค้างในร่างกายและกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายด้วย

[caption id="attachment_34245" align="aligncenter" width="377"] น.พ.พิศิษฐ์ ลี แพทย์แผนจีนประจำ เอไลฟ์ คลินิก (A Life Clinic) น.พ.พิศิษฐ์ ลี
แพทย์แผนจีนประจำ เอไลฟ์ คลินิก (A Life Clinic)[/caption]

เรื่องนี้ “น.พ.พิศิษฐ์ ลี “ แพทย์แผนจีนประจำ เอไลฟ์ คลินิก (A Life Clinic) เล่าว่า การครอบแก้วมีต้นกำเนิดที่ประเทศจีน มีมานานกว่าพันปีแล้วพร้อมกับการฝังเข็ม และการที่คนไทยได้รู้จักเพราะแพทย์จีนได้นำเข้ามาเผยแพร่ การที่เป็นที่รู้จักได้เพราะการรักษาได้ช่วยบำบัดรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการรักษาเริ่มจากการวินิจฉัยผู้ป่วยก่อน เพื่อกำหนดจุดในการครอบแก้ว ซึ่งส่วนใหญ่สามารถใช้วิธีการรักษาแบบครอบแก้วได้เกือบทุกราย การรักษามี 3 แบบ คือ 1. การบำรุง ต่อมาคือ

วิธีที่ 2 เป็นการบำบัดรักษาโรค หลังจากตรวจร่างกายคนไข้ด้วยการซักประวัติ วิเคราะห์แล้วแพทย์จะใช้เข็ม เคาะ เพื่อเปิดผิวหนังบริเวณที่จะครอบแก้ว การใช้เข็มเคาะให้เกิดรูเหมือนเป็นการเปิดผิวหนังแต่ไม่ลึก จากนั้นครอบแก้วแม้มีเลือดไหลออกมาก็ไม่ต้องตกใจ มันคือเลือดเสียที่อยู่ชั้นบนของผิวหนัง การครอบแก้วนี้คนไข้ต้องนอนนิ่งๆ ห้ามขยับตัวประมาณ 20-30 นาที และหลังจากเอาแก้วออก ผิวหนังจะมีรอยจ้ำเลือด และรอยเหล่านี้จะหายไปเองราว 3-10 วัน หลังจากนั้นควรกลับมาทำซ้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จนกระทั่งครบ 10 ครั้ง จึงจะเห็นผลได้ชัดเจนว่าอาการที่เป็นจะดีขึ้น ซึ่งการครอบแก้วนี้สามารถรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้ดีที่สุด เพราะเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

สำหรับวิธีที่ 3 การครอบแก้วร่วมกับการฝังเข็ม วิธีนี้จะเห็นผลเร็วและดีมาก เพราะการฝังเข็มช่วยกระตุ้นการทำงานระบบอวัยวะต่าง ๆ ส่วนการครอบแก้วช่วยในการขับสารพิษ ตามความเชื่อของศาสตร์แผนจีนถ้าได้ขับพิษออกจากร่างกายก่อนที่จะทำการรักษาหรือบำบัดด้วยวิธีการต่อไป จะช่วยทำให้ร่างกายพร้อมที่จะรับการรักษาหรือการบำรุงร่างกาย จึงต้องใช้ร่วมกันกับการฝังเข็ม

ข้อดีของการครอบแก้วยังช่วยในเรื่องทำให้หน้าตาสดใส ชะลอวัย ร่างกายแข็งแรง ภูมิคุ้มกันเป็นปกติ ทั้งช่วยลดไขมันทั้งในร่างกายและในเลือดได้ด้วย ช่วยคนที่ท้องผูก ไหล่ติด ไซนัส คออักเสบ โรคกระเพาะอาหาร ปวดศีรษะ วัยทอง สิว เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ปวดประจำเดือน ดังนั้นถ้าใครที่เริ่มรู้สึกว่าพักผ่อนน้อย อ่อนเพลีย ตื่นมาไม่สดชื่น นอนเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ ง่วงเหงาหาวนอนระหว่างทำงาน หรือมีอาการ เมื่อยกล้ามเนื้อจากการนั่งทำงานนานๆ เป็นโรคออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น การครอบแก้วสามารถช่วยบำบัดได้ โดยไม่ต้องรับประทานยาให้เกิดผลกับตับในระยะยาว สนใจลองสอบถามกันดูที่ A Life Clinic

ดูแลสุขภาพกันเสียตั้งแต่วันนี้ดีกว่าต้องนอนกลอกตาให้คนพยาบาล....

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,135
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม พ.ศ. 2559