คาเธ่ย์ฯรีแบรนด์ดรากอนแอร์ ยกระดับสู่สากลดีเดย์เมษานี้

15 ก.พ. 2559 | 11:00 น.
คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป ประกาศรีแบรนด์ สายการบินดรากอนแอร์เปลี่ยนชื่อเป็น คาเธ่ย์ ดรากอน หวังยกระดับให้เป็นสากลมากยิ่งขึ้น ดันยอดโตผู้โดยสารเพิ่มและเสริมความแกร่งของทั้ง 2 สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคและดรากอนแอร์ ดีเดย์ปรับโลโกใหม่เม.ย.นี้

รายงานข่าวจาก คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป เผยว่า เพื่อเป็นการยกระดับสายการบิน ดรากอนแอร์ ให้มีมาตรฐานสากล เช่นเดียวกับสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคและเสริมความแข็งแกร่งให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น คาเธ่ย์ ครากอน โดยทั้ง 2 สายการบิน ยังคงให้บริการภายใต้แบรนด์และใบอนุญาตการบินของตนเอง และสามารถขยายเส้นทางการให้บริการเที่ยวบินสู่จีน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตของการเดินทางท่องเที่ยวและธุรกิจสูงที่สุดในโลก

ทั้งนี้นับตั้งแต่สายการบินดรากอนแอร์ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจภายใต้การดำเนินงานของคาเธ่ย์ แปซิฟิคในปี 2549 ดรากอนแอร์ ได้ขยายการบริการสู่จุดหมายปลายทางเพิ่มขึ้นใหม่ทั้งหมด 23 เส้นทาง และมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 5 เท่าคิดเป็นกว่า 7 ล้านคนในปี 2558 โดยมีจำนวนผู้โดยสารของทั้งสองสายการบินรวมกันเพิ่มขึ้นจาก 22 ล้านคนเป็นมากกว่า 34 ล้านคนในปีที่ผ่านมา

นายไอแวน ชู ประธานบริหารสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค กล่าวว่า "เรามีความภาคภูมิใจกับความสำเร็จของทั้ง 2 สายการบินที่มีร่วมกัน สายการบินคาเธ่ย์ ดรากอน จะเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้โดยสารทั่วโลกในฐานะของสายการบินที่ให้บริการภายใต้ คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป และการรีแบรนด์จะให้ผู้โดยสารเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว"

"เรามุ่งมั่นต่อยอดจากความสำเร็จที่ฮ่องกงได้กลายเป็นศูนย์กลางการบินระดับสากลที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศจีน การสร้างแบรนด์ใหม่ให้กับคาเธ่ย์ ดรากอน จะทำให้สายการบินมีศักยภาพในการแข่งขันที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยการนำเสนอบริการที่ได้มาตรฐานเดียวกับสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ"

ทั้งนี้ เครื่องบินของสายการบินคาเธ่ย์ ดรากอน จะมีการปรับโลโก้เป็นภาพฝีแปรง เฉพาะของคาเธ่ย์ (brushwing) โดยจะเริ่มใช้ครั้งแรกบนเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-300 ในเดือนเมษายนนี้ ก่อนจะขยายไปสู่เครื่องบินลำอื่นๆ ต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการใช้สีแดงในโลโก้ใหม่ เพียงแต่เพิ่มความเข้มของสีแดงให้มากขึ้นกว่าเดิม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,131 วันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559