แอร์บัส ปลื้มปิดฉากปี 58 ผลงานทะลุเป้า ทั้งส่งมอบเครื่องบินมากที่สุดถึง 635 ลำ ทั้งยังทำสถิติใหม่ ด้วยยอดรวมการสั่งซื้อเครื่องบินที่ได้รับรวม 1,036 ลำ ส่งผลให้มีเครื่องบินที่รอการส่งมอบเมื่อสิ้นสุดปีที่ผ่านมาถึง 6.78 พันลำ สูงสุดเป็นประวัติการณ์
รายงานจากแอร์บัส ระบุถึงผลประกอบการในปี 2558 ว่า ปีที่ผ่านมาถือว่ามีผลประกอบการณ์ทะลุเป้า โดยสามารถทำการส่งมอบเครื่องบินได้กว่า 635 ลำ ให้แก่ลูกค้า 85 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้าใหม่ 10 ราย ยอดการส่งมอบนี้ประกอบไปด้วย เครื่องบินแอร์บัสตระกูล เอ320 จำนวน 491 ลำ เครื่องบินแอร์บัส เอ330 จำนวน 103 ลำ เครื่องบินแอร์บัส เอ380 จำนวน 27 ลำ และเครื่องบินแอร์บัส เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี จำนวน 14 ลำ ถือเป็นความสำเร็จในการผลิตและส่งมอบเครื่องบิน ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 13 และแซงหน้ายอดการส่งมอบเครื่องบินจำนวน 629 ลำ ในปี 2557
นอกจากนี้ แอร์บัสยังได้รับคำสั่งซื้อสุทธิเป็นจำนวน 1,036 ลำ จากลูกค้า 53 ราย (ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าใหม่ 8 ราย) ได้แก่เครื่องบินทางเดินเดี่ยว 897 ลำ และเครื่องบินรุ่นลำตัวกว้าง 139 ลำ โดยเมื่อสิ้นสุดปี 2558 ยอดรวมของเครื่องบินแอร์บัสที่รอการส่งมอบได้เพิ่มขึ้นไปสู่จุดสูงสุดและทำสถิติใหม่ในอุตสาหกรรมด้วยจำนวน 6,787 ลำ คิดเป็นมูลค่า 996.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามราคาขาย
ต่อเรื่องนี้นายฟาบริซ เบรจิเย่ร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอร์บัส กล่าวว่า ผลประกอบการเชิงพาณิชย์และเชิงอุตสาหกรรมนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความต้องการทั่วโลกที่มีต่อเครื่องบินของแอร์บัสยังคงมีอยู่ นอกจากนี้ ในปี 2558 แอร์บัสยังได้วางรากฐานสำหรับอนาคตโดยการเพิ่มความสามารถและความหลากหลายของเครื่องบินที่นำเสนอให้แก่ลูกค้า
โดยรวมแล้วในปี 2558 เป็นอีกปีที่มีความสำเร็จหลากหลายด้านของแอร์บัส เช่น เครื่องบินแอร์บัส เอ320 นีโอ ได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านการบินของทั้ง 2 ฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปีนับจากการเปิดตัวเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ แอร์บัสยังได้ทำการส่งมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ350 จำนวน 14 ลำ ทำให้ส่งผลดีต่อสายการบินต่างๆ ที่ได้รับประโยชน์จากเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดในโลก ความก้าวหน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่งนั้นอยู่ที่เครื่องบินอีกรุ่นในโครงการเครื่องบินแอร์บัส เอ350 นั่นก็คือ เครื่องบินแอร์บัส เอ350-1000 ซึ่งในขณะนี้ ส่วนประกอบหลักและโครงสร้างต่างๆ กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการประกอบขึ้น ณ โรงงานหลายแห่ง
ขณะเดียวกันชิ้นส่วนสำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ330 นีโอ ลำแรกกำลังอยู่ระหว่างการผลิต โดยมีการเริ่มการผลิตชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ชิ้นแรกและส่วนประกอบของโครงสร้างลำตัวส่วนกลางที่เชื่อมต่อกับปีก ทั้งยังมีข่าวดีสำหรับเครื่องบินที่มีความโดดเด่นอย่างเครื่องบินแอร์บัส เอ380 จากการที่โครงการได้ถึงจุดคุ้มทุนแล้ว ด้วยระยะเวลา 10 ปีนับจากเที่ยวบินแรก
รวมไปถึงแอร์บัสยังเปิดตัวโรงงานแอร์บัสในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการที่เมืองโมบิล ที่ชายฝั่งของรัฐอัลละบามา ซึ่งภายในปี 2561 จะมีเครื่องบินแอร์บัสตระกูล เอ320 ถูกผลิตขึ้นที่นี่ 40-50 ลำต่อปี อีกฟากฝั่งหนึ่งของโลกในประเทศจีน ยอดการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ที่เพิ่มขึ้นนั้น นอกจากจะเป็นการสนับสนุนแผนการสร้างศูนย์ประกอบและส่งมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ330 แห่งใหม่ในเมืองเทียนจินแล้ว ยังจะช่วยให้การปรับเปลี่ยนไปสู่เครื่องบินแอร์บัส เอ330 นีโอ เป็นไปได้อย่างราบรื่น
อีกทั้งในปีที่ผ่านมา แอร์บัส ยังได้เปิดตัวการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นของเครื่องบินอีก 3 ประการ ได้แก่ เครื่องบินที่มีพิสัยการบินระยะไกลสำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ321 นีโอ ซึ่งจะนำเสนอการปฏิบัติการการบินข้ามแอตแลนติกได้อย่างแท้จริง เครื่องบินรุ่นสำหรับเส้นทางระดับภูมิภาคของเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ซึ่งสามารถเพิ่มที่นั่งผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 400 ที่นั่งเพื่อทำการบินในพิสัยระยะไกลสูงสุดถึง 3,000 ไมล์ทะเล และเครื่องบินที่มีพิสัยการบินระยะไกลพิเศษสำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ 350-900 ซึ่งสามารถทำการบินได้ยาวนานกว่า 19 ชั่วโมง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,123 วันที่ 17 - 20 มกราคม พ.ศ. 2559