ตะลึงพระกทม.-เขตเมืองเสี่ยงโรคอ้วนสูงดันคลอดรธน.คุ้มสุขภาพพระสงฆ์

04 ก.ค. 2560 | 07:59 น.
 

พระสงฆ์กทม.และเขตเมืองกว่าครึ่งเสี่ยงโรคอ้วน เหตุฉันอาหารโปรตีนต่ำ-ไขมันสูง สสส.-สช.-สธ.-สำนักพุทธ-จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผนึกกำลังคณะสงฆ์-สายสุขภาพ ส่งเสริมสุขภาวะสงฆ์ไทย เตรียมคลอดธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ จัดแถลงข่าว “สงฆ์ไทยไกลโรค เข้าพรรษานี้ อย่าลืมตักบาตร ถาม(สุขภาพ)พระ” โดยความร่วมมือของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทั้งนี้

monk

รศ.ดร.ภญ.จงจิตร อังคทะวานิช ผู้จัดการโครงการขับเคลื่อนสงฆ์ไทยไกลโรค เพื่อการดูแลโภชนาการพระสงฆ์ในระดับประเทศ (สสส.) กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลพระสงฆ์ในกทม.และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า พระสงฆ์ในกทม.และในเขตเมืองกว่าครึ่ง มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วน โดยพระสงฆ์ในกทม. สัดส่วน 48% ของกลุ่มตัวอย่างมีภาวะอ้วนลงพุงมากกว่าชายในกทม. 39% และชายทั่วประเทศ 28% ทั้งเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังที่สำคัญได้แก่ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และความดันโลหิตสูง จากการเก็บข้อมูลพระสงฆ์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า พระสงฆ์ในเขตเมืองเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกินสูงกว่าในเขตนอกเมือง สาเหตุสำคัญมาจากอาหารใส่บาตรที่มีโปรตีนต่ำหรือได้รับเพียง 60% ของปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับ ปริมาณใยอาหารมีระดับต่ำ จึงชดเชยด้วยการดื่มน้ำปานะที่มีน้ำตาลสูงถึง 7 ช้อนชาต่อวัน

จากการเก็บข้อมูลฝั่งฆราวาส พบว่า อาหารส่วนใหญ่ในการถวายพระมาจากการซื้ออาหารชุดใส่บาตร โดยมีหลักการเลือกอาหารคือ ความสะดวกและราคา เลือกเมนูที่ผู้ล่วงลับชอบบริโภค ซึ่งเมนูหลักที่แม่ค้านิยม เช่น ไข่พะโล้ แกงเขียวหวาน หมูทอด และขนมหวาน ทำให้พระสงฆ์จำเป็นต้องฉัน เพื่อให้ญาติโยมได้บุญ ไม่เสียศรัทธา ทั้งยังพบว่า พระสงฆ์ออกกำลังกายน้อยเพราะกลัวผิดพระธรรมวินัย โดยพบว่าใน 1 วัน พระสงฆ์เดินเบาประมาณ 30 นาที ซึ่งน้อยกว่าชายไทยที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 100 นาที พระสงฆ์จึงเป็นกลุ่มบุคคลที่มีโอกาสในการส่งเสริมสุขภาพต่ำ ได้แก่ ขาดการบริโภคอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ ขาดการตรวจสุขภาพประจำปี และมีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย ที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ออกแบบชุดความรู้สงฆ์ไทยไกลโรค ในการให้ความรู้ความเข้าใจถึงการสร้างเสริมสุขภาพของพระสงฆ์

monk3

ด้านพระราชวรมุนี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า แม้อาหารบิณฑบาตจะเลือกไม่ได้ แต่สามารถพิจารณาฉันอาหารที่ดีต่อร่างกายตนได้ โดยพระธรรมวินัย พระพุทธเจ้าให้พระสงฆ์เป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ฉันอาหารพอสมควร และพระสงฆ์ไม่สามารถออกกำลังกายเหมือนฆราวาส เพราะพระภิกษุต้องประพฤติตนสำรวม โดยเฉพาะในละแวกบ้านหรือเขตชุมชนตามหลักเสขิยวัตร แต่มีหลักกิจวัตร 10 ประการ ที่พระพุทธเจ้าอนุญาต ซึ่งถือเป็นการออกกำลังกาย เช่น การเดินบิณฑบาต กวาดลานวัด ทำความสะอาดวัด เดินจงกลม ตัดต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ เพื่อขยับร่างกาย รวมถึงแกว่งแขนลดพุงลดโรค ซึ่งทำได้ในพื้นที่วัด ในช่วงจำพรรษาจึงอยากให้พระสงฆ์หันมาดูแลสิ่งของภายในวัด ซึ่งถือเป็นการออกกำลังกายในลักษณะการทำความสะอาด ดูแลงานสาธารณูปการในวัด และฉันอย่างพิจารณา

นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) กล่าวว่า จากมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ส่งผลให้เกิดมติมหาเถรสมาคม เรื่อง พระสงฆ์กับการพัฒนาสุขภาวะ โดยจะมีการขับเคลื่อนร่วมกันต่อไปคือความร่วมมือในการพัฒนาธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ เพื่อเป็นเครื่องมือปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์ ฆราวาส และหน่วยบริการสุขภาพในการสร้างเสริมสุขภาพที่นำเอาหลักพระธรรมวินัยเป็นตัวนำ และใช้ความรู้ทางสุขภาพเป็นตัวเสริม ซึ่งในธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์จะมี 3 มิติที่เกี่ยวข้อง คือ

1.พระสงฆ์กับการสร้างเสริมและดูแลสุขภาพตนเอง 2.ฆราวาส ชุมชนและบุคลากรทางสุขภาพ ควรมีข้อปฏิบัติในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์อย่างไรที่เหมาะสมตามหลักพระธรรมวินัย และ 3.บทบาทพระสงฆ์ในการเป็นผู้นำของชุมชนด้านสุขภาพ โดย สช.จะร่วมสนับสนุนการจัดทำและขับเคลื่อนธรรมนูญฯ โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม ซึ่งในเดือนสิงหาคม และกันยายนนี้ เตรียมแผนว่าจะมีเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ก่อนเสนอต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมเพื่อเห็นชอบ และประกาศให้ภาคีเครือข่ายรับทราบในสมัชชาสุขภาพครั้งที่ 10 ในเดือนธันวาคมนี้

monk2

นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกและเป็นมิติใหม่ในการขับเคลื่อนสุขภาวะพระสงฆ์อย่างเป็นรูปธรรม หลังจากธรรมนูญสุขภาพแห่งชาติประกาศใช้แล้ว จะเสนอไปยังที่ประชุมมหาเถรสมาคมเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในพระสงฆ์ร่วมกันทั่วประเทศ เพื่อให้พระสงฆ์ตระหนักในการดูแลสุขภาพตนเอง หลักปฏิบัติที่ถูกต้องของฆราวาสรวมถึงการส่งเสริมให้พระสงฆ์เป็นผู้นำทางสุขภาพ ซึ่งจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างโลกของสงฆ์และหน่วยบริการสุขภาพในพื้นที่ในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์อย่างเป็นระบบ

นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทุ่งตะโกโมเดล จ.ชุมพร ถือเป็นตัวอย่างธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ในพื้นที่ จากปัญหาสุขภาพพระสงฆ์ทำให้ชาวบ้านได้หารือกันและเกิดกติกาปิ่นโตสุขภาพ เวลาใส่บาตรจะต้องนำเมนูสุขภาพใส่ในปิ่นโตถวายพระและพระในชุมชนก็เป็นนักส่งเสริมสุขภาพ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจะมีการจัดการความรู้ที่ถูกต้องรวมทั้งการออกกำลังกายของพระสงฆ์เพื่อให้เกิดความรู้ร่วมกัน