ส่งออกไปสหรัฐปรับเป้าปี 59 เหลือโตแค่ 1% ส่วนปีหน้าตั้งเป้าขยายตัว 2% เร่งลุยหาช่องทางตลาดส่งออกใหม่เน้นจับกลุ่มลูกค้า ฮิสแปนิก เอเชียน อัฟริกัน ยุโรปตะวันออก จากมีกำลังซื้อสูง ขณะสั่งจับตาหากทีพีพีมีผลบังคับใช้ปีหน้าทุบซ้ำส่งออกไทยแน่ ชี้ 4 กลุ่มสินค้าน่าห่วง
นางสาวประนิตา เกิดพิกุล ผู้อำนวย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.)ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ถึงแนวโน้มการส่งออกของไทยไปยังตลาดสหรัฐฯ ในช่วง4 เดือนที่เหลือของปีนี้ว่า จากเศรษฐกิจในสหรัฐฯ คาดจะขยายตัวในอัตราต่ำกว่าเป้า 2.2% และคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวในอัตราต่ำในปี 2560 โดย ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) คาดการณ์ไว้ที่2.1% ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ไว้ 2.2% และธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์)คาดการณ์ไว้ 2.5% จากปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอตัวข้างต้น ทางสคต.ได้ปรับลดเป้าหมายการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯลงเหลือ 1%จากเป้าเดิม 2% โดยคาดการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯในปีนี้จะมีมูลค่าประมาณ 24,296 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนปี 2560 ตั้งเป้าส่งออกไว้ขยายตัวที่ 2% หรือมีมูลค่า 24,781 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
"เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2560 มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องจากปี2559 ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าโดยต่อเนื่อง จะส่งผลเสียทำให้สหรัฐฯลดการส่งออก และเป็นปัจจัยต่อการชะลอตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ"
สำหรับยุทธศาสตร์การผลักดันการส่งออกของไทยในตลาดสหรัฐฯสำหรับแผนงานในปี 2560 เน้นสินค้าอาหารเช่น การจัดโรดโชว์ สินค้าอาหารและบรรจุภัณฑ์อาหารในงานแสดงสินค้าที่สำคัญ เช่น NRA Restaurant Show, FMI Connect, IFT Food Expo เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างคอนเน็กชั่นกับผู้ซื้อของอุตสาหกรรม รวมถึงการเข้าร่วมงานเทศกาลในท้องถิ่น เพื่อประชาสัมพันธ์อาหารไทย และ Thai Select,Think Thailand ในงาน Festival Nations, St.Paul,ในช่วงเดือนพฤษภาคม, งานEthnic Enrichment Festival, Kansas City ช่วงเดือนสิงหาคม และ งาน Chicago Gourmetในเดือนกันยายน เป็นต้น
นอกจากนี้จะเน้นเจาะตลาดผู้บริโภคฮิสแปนิก โดยเพิ่มสินค้าอาหารไทยเข้าร้านของชำและซุปเปอร์มาร์เก็ตในกลุ่มผู้บริโภคฮิสแปนิก การจัดคณะผู้นำเข้ามาเจรจาการค้ากับผู้ผลิตและผู้ส่งออกในประเทศไทย ส่วนกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมจะมีการจัดคณะผู้บริหารระดับสูงของภาครัฐและเอกชนมาเยือนผู้ผลิตรายใหญ่สินค้าอุตสาหกรรม เช่น John Deer, Caterpillar, SC Johnson, Medtronix, Ford เพื่อชักชวนให้เพิ่มและขยายการลงทุนการผลิตหรือมาต่อยอดในประเทศไทย
"กรมจะเน้นสินค้าอาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจสปา และ ธุรกิจการกระจายสินค้าเช่นจัดคณะผู้ประกอบการไทยที่สนใจไปประกอบธุรกิจในสหรัฐฯ เดินทางไปดูตลาดและหาลู่ทางรวมไปถึงการพบลูกค้า/คู่ค้าที่ศักยภาพ เพื่อการทำตลาดเชิงรุกแบบยั่งยืน"
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้การส่งออกไทยไม่ขยายตัวเท่าที่ควร เช่น การแข่งขันด้านราคาสูง ซึ่งส่งผลต่อสินค้าไทยซึ่งมีต้นทุนการผลิตเปรียบเทียบสูงกว่าคู่แข่งขัน และหากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก( TPP) มีผลบังคับใช้ในปี 2560 จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยที่สำคัญไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ อุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์และสินค้าอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ผลิตจะย้ายฐานจากไทยไปยังเวียดนาม และ มาเลเซียที่เป็นสมาชิกทีพีพีเพิ่มขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,193 วันที่ 18 - 21 กันยายน พ.ศ. 2559