พาณิชย์มอบรางวัลผู้ส่งออกดีเด่นปี 59

15 ก.ย. 2559 | 07:30 น.
วันนี้(15 ก.ย.2559) ณ ห้องบอลรูม ชั้น 2 โซน เอ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  ได้จัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ และมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นประจำปี 2559  (Prime Minister’s Export Award 2016 : PM AWARD 2016) โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีและเป็นผู้มอบรางวัลอันทรงเกียรติดังกล่าว ซึ่งในปีนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้คัดเลือกผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกดีเด่นเข้ารับรางวัลสูงสุดที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มอบให้แก่ผู้ประกอบการส่งออกไทย จำนวน 43 บริษัท 50 รางวัล เพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพมาตรฐานขั้นสูงให้กับสินค้าและบริการไทย ที่มีความพร้อมในการก้าวสู่การเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า  การส่งออกมีความสำคัญในการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศและเป็นหนึ่งในกลไกพัฒนาเศรษฐกิจไทยในภาคการผลิต  ปัจจุบันประเทศไทยกำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือ Value-Based Economy ด้วยโมเดล “ประเทศไทย 4.0”  ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทยในเวทีการค้าโลก นั่นหมายถึง ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้มากขึ้น เพื่อสร้างความแตกต่างและนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมในสินค้าและบริการของตนเอง พร้อมกันนั้นยังต้องให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและบริการเป็นหัวใจสำคัญ  “ไทยจะเป็นเพียงผู้ผลิตสินค้าคุณภาพเหมือนในอดีตไม่ได้แล้ว  ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทยต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมทั้งด้านความคิด การออกแบบ การพัฒนาสิ่งใหม่ ซึ่งทั้งหมดจะต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์  ความรู้ และโนฮาว มาบูรณาการเข้าด้วยกัน เป็นการเดินหน้าพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตสินค้าและบริการที่มีทั้งคุณภาพและความโดดเด่นเฉพาะตัวในอาเซียน”

เพื่อตอบสนองแนวทางดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ จึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทย เดินหน้าจัดโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2559 (Prime Minister’s Export Award 2016 : PM AWARD 2016) ซึ่งโครงการดังกล่าวนับเป็นหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างภาพลักษณ์แก่ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ ทั้งยังส่งผลสำเร็จในการกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งแก่ภาคการส่งออกของไทยมาตลอด 25 ปี

นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนและให้ความสำคัญแก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกสินค้าและบริการไทยที่มีผลงานดีเด่น มีการริเริ่มและพยายามบุกเบิกตลาดต่างประเทศภายใต้ชื่อทางการค้าของตนเอง และมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองจนเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดีแก่ผู้ประกอบการที่มีส่วนผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการของประเทศ  โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เดินหน้าพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจส่งออกให้มีความแข็งแกร่ง เติมเต็มความรู้ใหม่ สร้างความเข้าใจในพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจการค้า  และสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจส่งออกนับจากนี้คือ การผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมแก่สินค้าและบริการไทยไปพร้อมๆ กับการสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือของสินค้าและบริการไทยแก่ผู้บริโภคทั่วโลก เพื่อก่อให้เกิดการขยายตัวและความยั่งยืนในภาคการส่งออกของไทยในอนาคต