พาณิชย์นำทัพธุรกิจไทยบุกปักธงตลาดแอฟริกา

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้นำผู้ประกอบการไทยจำนวน 23 บริษัท ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าข้าว 6 บริษัท อาหารประเภทอื่นๆ 6 บริษัท ชิ้นส่วนยานยนต์ 5 บริษัท และสินค้าอุตสาหกรรมหนักอื่นๆ 6 บริษัท เดินทางไปเจรจาการค้ากับผู้ซื้อผู้นำเข้า ณ กรุงมาปูโต ประเทศโมซัมบิก และกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ได้ผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม คาดว่าจะมีการสั่งซื้อสินค้าไทยภายใน 1 ปี ถึงกว่า 150 ล้านบาท

“สินค้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในการเจรจาการค้าครั้งนี้ ได้แก่ สินค้านวัตกรรมทางด้านพลังงาน เนื่องจากหลายๆ ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาหันมาให้ความสำคัญด้านพลังงานและเริ่มออกมาตรการประหยัดพลังงานแล้ว อีกทั้งหลอดไฟ Smart LED ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถเก็บพลังงานไว้ได้หลังไฟฟ้าดับ รวมถึงปั๊มนํ้า และเครื่องปั่นไฟ ต่างได้รับความสนใจอย่างมาก ในขณะเดียวกันสินค้าอาหารที่มีผู้นำเข้าท้องถิ่นสั่งซื้อเข้าไปทดลองตลาดแล้ว ได้แก่ ของขบเขี้ยวประเภทถั่วและผลไม้อบแห้ง ผงประกอบอาหาร ซุปสำเร็จรูป และเครื่องดื่มสมุนไพร” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าว

ผลจากการเจรจาธุรกิจครั้งนี้ บริษัท  ซิมเทคโนโลยี จากประเทศไทยกําลังอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ในการลงทุนสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศโมซัมบิก ซึ่งหากโรงงานดังกล่าวเกิดขึ้นจริง คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนสูงถึงกว่า 700 ล้านบาท โดยบริษัทจะสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 8 ปี

นอกจากการจัดกิจกรรมเจรจาการค้าแล้ว กรมได้นำสินค้าตัวอย่างของผู้ประกอบการทั้ง 23 บริษัทข้างต้น ไปจัดแสดงในงานแสดงสินค้า Maputo International Trade Fair - FACIM 2016 อีกด้วย ซึ่งงานดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้าประจำชาติที่ใหญ่ที่สุดของโมซัมบิกและจัดเป็นประจำทุกปีต่อเนื่องมากว่า 50 ปี   มีผู้เข้าชมงานนับแสนคน โดยในปีนี้มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 4 กันยายน 2559

การจัดคณะนักธุรกิจบุกตลาดแอฟริกาในครั้งนี้สืบเนื่องจากที่คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และผู้แทนกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้เดินทางไปสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประเทศโมซัมบิกและเคนยา เมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 หลังจากที่ประเทศไทยได้ไปเปิดสถานทูต ณ กรุงมาปูโต สาธารณรัฐโมซัมบิก ในเดือนมิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งในการเดินทางในครั้งนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้พบปะหารือกับหน่วยงานสำคัญๆ ของทั้งสองประเทศ อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และธนาคารแห่งชาติของประเทศโมซัมบิก และกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและสหกรณ์ และกระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ของประเทศเคนยา เป็นต้น ซึ่งทั้งสองประเทศมีความยินดีที่จะกระชับและยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้ายิ่งขึ้นกว่าเดิม นับเป็นโอกาสอันดีในการส่งเสริมสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายยิ่งขึ้นในตลาดใหม่อย่างโมซัมบิกและเคนยา ทั้งนี้ที่ผ่านมามีการนำเข้าสินค้าจากไทยเพียงไม่กี่ประเภทเท่านั้น

ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2559 (มกราคม – กรกฎาคม 2559) มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยและโมซัมบิกมีมูลค่า 83.64 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นไทยส่งออกไปโมซัมบิกมูลค่า 76.09 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สหรัฐฯ และนำเข้า 7.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ ข้าว เม็ดพลาสติก รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ปูนซีเมนต์ และผ้าผืน

ด้านมูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยและเคนยา 7 เดือนแรกของปี 2559 มีมูลค่า 98.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นไทยส่งออกไปเคนยามูลค่า 89.39 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้า 8.64 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ข้าว เม็ดพลาสติก น้ำตาลทราย และเคมีภัณฑ์