“GBS” จับตาเฟดเคาะขึ้นดอกเบี้ย 20-21 ก.ย.นี้หรือไม่ ให้กรอบดัชนี 1,420 - 1,460 จุด

14 ก.ย. 2559 | 04:05 น.
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยเจอแรงกดดันเฟดประชุมวันที่ 20 – 21 ก.ย. หาบทสรุปขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่  ให้กรอบดัชนี 1,420 - 1,460 จุด  ด้านราคาทองคำลงต่อ หลังธนาคารกลางยุโรปไม่ลดดอกเบี้ย  และไม่ต่อเวลา QE โดยมีแนวรับ 1,305-1,300 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,355-1,360 เหรียญต่อทรอยออนซ์

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากกระแสเงินทุนจากต่างชาติเป็นหลักตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท  ขณะที่ปัจจัยบวกภายในประเทศมาจากมาตรการภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ   เห็นได้จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 - 2564) เริ่มใช้ 1 ต.ค.59 ตั้งเป้า GDP โตเฉลี่ยกว่า 5% ต่อปี  และมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 10% เป็น 7% ต่อไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ รวมถึงเงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หลังดัชนี SET ปรับลดลงลึกเข้ามาช่วยพยุงตลาด

อย่างไรก็ตาม มีความไม่แน่นอนจากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20 – 21 ก.ย.นี้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่   ทั้งนี้ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน รวมทั้งเสนอความเห็นว่าเฟดควรหารือกันอย่างจริงจังต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาในวันที่ 14 ก.ย. มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 6/2559 คาดว่าน่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ  ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าจะมีการปรับประมาณการตัวเลข GDP ใหม่หลัง GDP  ไตรมาส 2/2559  ที่ 3.5% ดีกว่าคาด ส่วนวันที่ 15 ก.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โพลล์คาดคงอัตราดอกเบี้ย วันที่ 20 – 21 ก.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ และในวันที่ 26 – 28 ก.ย. กลุ่มโอเปกเตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเพื่อหารือวิธีสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน

ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก  ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทยยังคงมีแรงกดดันและผันผวนสูง จากประเด็นการประชุม FOMC ในวันที่ 20 – 21 ก.ย. ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ อย่างไรก็ตามคาดว่าการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 26 – 28 ก.ย. น่าจะเป็นบวกต่อราคาน้ำมันรวมถึงกลุ่มพลังงาน ประกอบกับแรงซื้อเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิค Oversold ของดัชนีน่าจะช่วยหนุนต่อภาวะการลงทุนในสัปดาห์นี้

ดังนั้นประเมินว่า SET แกว่งตัวในกรอบ 1,420 - 1,460 จุด ทั้งนี้แนะนำซื้อเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ THAI, AAV และBA  ที่ได้รับผลดีเชิงบวกด้านจิตวิทยาจากการที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เร่งตรวจรับรอง 25 สายการบิน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาราว 4 เดือน ลุ้นต้นปี 60 ยื่นขอ ICAO ตรวจมาตรฐานอีกรอบ  รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เร่งเครื่องโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน วงเงิน 6.3 หมื่นล้านบาท เปิดฉากประมูลในเดือนต.ค. ได้แก่ ILINK  และARROW

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ  นายสุทธิพงษ์  ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า  ราคาทองคำปรับลงในช่วงท้ายของสัปดาห์ที่ผ่านมา จากแรงกดดันธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และไม่มีการขยายช่วงเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)  ประกอบกับความกังวลว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายรายได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ โดยประธานเฟด สาขาบอสตันกล่าวเตือนว่าเฟดเผชิญความเสี่ยงมากขึ้นหากชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานเกินไป

ขณะที่ประธานเฟด สาขาดัลลัส เผยปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา  ด้านนายแดเนียล ทารูลโล หนึ่งในผู้ว่าการเฟด กล่าวว่าเขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ รวมถึงประธานเฟดสาขาแอตแลนตาเห็นว่าเฟดควรทำการหารืออย่างจริงจังในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตลาดจะคลายกังวลลงบ้างต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดหลังนางลาเอล เบรนนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดได้แนะนำให้เฟดดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปถึงแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการฟื้นตัว  แต่ความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงส่วนใหญ่ที่มองว่าเฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยจะยังเป็นแรงกดดันต่อทิศทางของราคาทองคำ

 

สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค  ราคาทองปรับลงต่ำกว่าแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ด้วยการต่อยอดขาลงแท่งเทียนสัญญาณลบที่หลุดฐานแนวรับไหล่ขวา  ประกอบกับค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นลบ  แม้ระยะสั้นจะมีการฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแต่ยังมีแรงกดดันจากแนวพักตัวลง ทำให้ดัชนีแนวโน้มปรับขึ้นช่วงสั้นเท่านั้นก่อนปรับลงต่อ โดยมีแนวรับ 1,305-1,300 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,355-1,360 เหรียญต่อทรอยออนซ์