ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  ชี้ KR-ECI ปรับตัวดีขึ้นในเดือนส.ค.59(เต็ม)

13 ก.ย. 2559 | 08:00 น.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ เรื่อง KR-ECI ปรับตัวดีขึ้นในเดือนส.ค. 2559 ครัวเรือนลดความกังวลต่อภาวะการมีงานทำและสถานการณ์ราคาสินค้า(ฉบับเต็ม)

ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) เดือนส.ค. 2559 และดัชนีสะท้อนมุมมองคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 42.8 และ 44.4 จากระดับ 42.3 และ 43.3 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน สะท้อนครัวเรือนเริ่มมีความกังวลที่ลดลงต่อภาวะการครองชีพทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยครัวเรือนมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้าและภาวะการมีงานทำลดลง สอดคล้องกับการลดลงของจำนวนผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ภาพรวมของดัชนีความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนในช่วงที่เหลือของปีน่าจะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นช่วงที่สถานประกอบการจะมียอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็เป็นช่วงการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษประจำปี ทำให้ครัวเรือนมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อประเด็นด้านรายได้ อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อาจจะกระทบต่อค่าครองชีพของครัวเรือนในระยะข้างหน้า

ปัญหาภัยแล้งที่คลี่คลายในช่วงฤดูเพาะปลูกประกอบกับความตึงเครียดในสถานการณ์การจ้างงานภายในประเทศที่บรรเทาลง ทำให้ความเชื่อมั่นของครัวเรือนต่อภาวะการครองชีพเดือนส.ค. 2559 ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา สะท้อนให้เห็นว่า ครัวเรือนเริ่มลดความกังวลในสภาวะการครองชีพลงบ้าง หลังจากในช่วง 1-2 เดือนก่อนหน้าต้องแบกรับความกดดันทั้งในประเด็นเรื่องสถานการณ์ราคาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นราคาอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มสูงขึ้นจากปัญหาภัยแล้ง หรือราคาเชื้อเพลิงในประเทศที่ผันผวนตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และประเด็นเรื่องภาวะการมีงานทำหลังสถานการณ์การจ้างงานภายในประเทศเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว สืบเนื่องมาจากภาคการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องได้เริ่มกดดันภาคการผลิตและการลงทุนในประเทศ

•ความกังวลของครัวเรือนต่อภาวะการมีงานทำบรรเทาลง สะท้อนจากดัชนีองค์ประกอบที่แสดงมุมมองต่อการมีงานทำและรายได้เดือนส.ค. 2559 ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 49.2 จากระดับ 48.3 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องมาจากองค์กร/หน่วยงานส่วนใหญ่มีการปรับตัวทางธุรกิจโดยเลือกที่จะใช้วิธีการลดเวลาการทำงานนอกเวลา (OT) และการรับพนักงานใหม่ในอัตราที่ชะลอลงมากกว่าการเลิกจ้าง สอดคล้องกับจำนวนผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนเดือนส.ค. 2559 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1.55 แสนคน จาก 1.98 แสนคนในเดือนก.ค. 2559 โดยเป็นการลดลงในจำนวนผู้ว่างงานที่เคยทำงานในภาคการผลิตมากที่สุดราวร้อยละ 52  สะท้อนให้เห็นภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์การจ้างงานในประเทศที่กำลังปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

k1-1 •ครัวเรือนเผชิญ 'ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง/ค่าโดยสาร' ที่เพิ่มขึ้น แต่ 'ราคาอาหารและเครื่องดื่ม' ที่ลดลงได้เข้ามาชดเชยผลดังกล่าว และทำให้ค่าครองชีพโดยรวมปรับตัวลดลง สะท้อนจากดัชนีองค์ประกอบที่แสดงมุมมองต่อสถานการณ์ด้านราคาสินค้าเดือนส.ค. 2559 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 38.9 จากระดับ 37.6 ในเดือนก่อนหน้า โดยครัวเรือนลดความกังวลต่อระดับราคาอาหารและเครื่องดื่ม แต่กลับมีความกังวลต่อค่าใช้จ่ายในการเดินทาง/ค่าโดยสารเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากผลสำรวจชี้ให้เห็นเพิ่มเติมว่า การเปิดให้บริการทางด่วนเส้นใหม่ 'ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก' เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2559  ส่งผลให้ครัวเรือนบางส่วนที่เดินทางมาทำงานด้วยรถส่วนตัว รวมไปถึงรถตู้สาธารณะที่ครัวเรือนอาศัยเดินทางมาทำงานได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถระหว่างเขตปริมณฑล-กรุงเทพฯ โดยหันไปใช้ทางด่วนสายใหม่มากขึ้นเพื่อลดเวลาการสัญจรบนท้องถนน ถึงแม้จะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ครัวเรือนราว 3-50 บาท/เที่ยวรอบเดินทาง แต่ครัวเรือนส่วนใหญ่ก็ยังมีความยินดีที่จ่ายเพื่อแลกกับการลดใช้เวลาบนท้องถนนโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งรีบ (Rush hours)

k2-3 •ในขณะที่ดัชนีสะท้อนมุมมองคาดการณ์ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ก็ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 44.4 จากระดับ 43.3 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนครัวเรือนมีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในระยะข้างหน้า จึงทำให้มีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น นั่นเป็นเพราะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมียอดคำสั่งซื้อสินค้าทั้งจากในประเทศและนอกประเทศเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็เป็นช่วงการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษประจำปี (Bonus) ของหลายองค์กร ทำให้ครัวเรือนมีมุมมองต่อรายได้และเงินออมดีขึ้นตามไปด้วย

โดยสรุป  ความเชื่อมั่นของครัวเรือนต่อภาวะการครองชีพทั้งในปัจจุบันและในอนาคตปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกหลังปรับตัวลดลงติดต่อกันตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะครัวเรือนคลายความกังวลต่อสถานการณ์ทางด้านการมีงานทำและสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้า ทั้งนี้ หากความเชื่อมั่นของครัวเรือนยังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนถัดๆ ไป ก็น่าจะช่วยสนับสนุนให้การบริโภคของภาคเอกชนในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี 2559 มีทิศทางที่ดีขึ้น

k3-1