กรมควบคุมโรคแนะใช้วิธีกำจัดลูกน้ำยุงลายจริงจังป้องกัน 3 โรค

12 ก.ย. 2559 | 10:45 น.
วันนี้ (12 ก.ย.59) นายแพทย์อำนวย  กาจีนะ  อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค(EOC) ว่า ในช่วงนี้ยุงลายมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝนของปี ซึ่งก็เป็นช่วงที่พบผู้ป่วยสูงสุดของโรคที่มาจากยุงลายด้วย ทั้งโรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา  ซี่งวิธีที่ดีที่สุดในการลดจำนวนผู้ป่วยลง คือการลดจำนวนของยุงลายในธรรมชาติให้น้อยลง ประกอบการการป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด และมาตรการที่รณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันดำเนินการในปัจจุบัน คือ “ประชารัฐร่วมใจ พิชิตลูกน้ำยุงลาย 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ได้แก่ 1.เก็บบ้านให้สะอาด โปร่ง โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบ เป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน โดยทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง 3.เก็บน้ำ สำรวจภาชนะใส่น้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิด ป้องกันยุงลายไปวางไข่เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา รวมทั้งการกำจัดและควบคุมยุงตัวแก่ เช่น การพ่นสารเคมีกำจัดยุงลาย และการป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด เช่น ทายากันยุง นอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวด กำจัดยุงโดยใช้ไม้ช็อตไฟฟ้า จุดสมุนไพรหรือยาจุดไล่ยุง หรือใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น

นอกจากนี้ ช่วงหน้าฝนปีนี้ ยังพบว่าค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วง 4 เดือนหน้าฝนนี้ (พฤษภาคม – สิงหาคม) ค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายในชุมชนเพิ่มเกือบ 3 เท่า  กรมควบคุมโรค จึงขอให้ประชาชนร่วมกันดำเนินมาตรการดังกล่าวให้จริงจัง โดยต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอและต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทุกวันศุกร์ในที่ทำงาน หรือทุกวันเสาร์-อาทิตย์ที่บ้าน โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้หรือทำอย่างเข้มข้นจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2559 นี้ และมีพื้นที่สำคัญ 6 ร. ที่ควรร่วมกันดำเนินการอย่างเข้มข้น ดังนี้ 1.โรงเรือน(บ้าน/ชุมชน)  2.โรงเรียน(สถานศึกษา/สถานเลี้ยงเด็กเล็ก) 3.โรงพยาบาล  4.โรงแรม/รีสอร์ท 5.โรงงาน/กลุ่มอุตสาหกรรมและ 6.โรงธรรม (วัด/มัสยิด/โบสถ์)

“ส่วนกรณีพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น จากข้อมูลพบว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ พบผู้ป่วยตั้งแต่ต้นปี 2559 แล้ว ซึ่งในตอนนั้นมีการดำเนินงานร่วมกันทั้งกรมควบคุมโรค กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จนสามารถควบคุมโรคให้สงบลงได้ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกเป็นจำนวนมาก จึงมีโอกาสที่จะพบผู้ป่วยได้ และในครั้งนี้ก็ถือเป็นพื้นที่เดิม ซึ่งหลังจากได้รับรายงานเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา กรมควบคุมโรค ได้ส่งทีมควบคุมโรคลงพื้นที่เพื่อค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม ทั้งผู้ป่วยยืนยันและผู้ป่วยร่วมบ้าน  ขณะนี้ ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติมเป็นวันที่ 4 นับจากพบผู้ป่วยรายสุดท้าย  และเพื่อความมั่นใจของประชาชน  กรมควบคุมโรคและกรุงเทพมหานคร  จะดำเนินการตามมาตรการ เฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกาอย่างเข้มข้นในระดับสูงสุดต่อเนื่อง ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422” นายแพทย์อำนวย กล่าวปิดท้าย