ปรับเป้าส่งออกปี59 แค่+0.3% ปีหน้าเล็งโต 3% ตลาดหลักพลิกบวกยกแผง
พาณิชย์ยอมยกธงปรับลดเป้าส่งออกปี 59 ติดลบ 0.3% ขณะตั้งเป้าปี 60 ขยายตัว 3%โดยตลาดหลักทั้งอาเซียน สหรัฐฯ อียู ญี่ปุ่น พลิกบวกถ้วนหน้า พร้อมโชว์แผนลุยตลาดสินค้า บริการ ดันเอกชนลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน
[caption id="attachment_96713" align="aligncenter" width="700"]
สินค้าส่งออก 5 อันดับแรกของไทยช่วง 7 เดือนแรกปี 2559[/caption]
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์(พณ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ 58 แห่งทั่วโลก (9 ก.ย.59) ได้มีการปรับลดเป้าส่งออกในภาพรวมทุกตลาดของไทยในปี 2559 จะติดลบที่ 0.3% ลดลงจากเป้าหมายเดิมขยายตัวที่ 5% มีปัจจัยหลักขากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัว
ขณะที่ได้ประเมินแนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2560 จะขยายตัวได้ที่ 3% โดยได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกตลาดหลักสำคัญๆ ไว้ดังนี้ เช่น สหภาพยุโรป(อียู) ขยายตัว 1%, ตลาดเอเชียตะวันออก เช่น จีน ขยายตัว 3% ,ฮ่องกง 2% ,ไต้หวัน 3% ,ญี่ปุ่น 1% เกาหลีใต้ 0%, สหรัฐอเมริกา 2.9% ตะวันออกกลาง 3.3%,เอเชียใต้ 2% ,อาเซียน 2.5% ,ทวีปออสเตรเลีย 5% ,ลาตินอเมริกา ติดลบ 0.1% โดยเป็นการปรับลดเป้าจากปี 2559 เช่น ตลาดยุโรปขยายตัว 2.8% ตะวันออกกลาง ขยายตัว -3% แอฟริกาขยายตัว-12% ญี่ปุ่น -1.5% จีนขยายตัว 3.5% อินเดียขยายตัว 9% CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม)ขยายตัว 13.6% อาเซียนขยายตัว 6.1% ออสเตรเลียขยายตัว 10% รัสเซียขยายตัว -15%สหรัฐอเมริกาขยายตัว3.1% และลาตินอเมริกา ขยายตัว 17.2%
สำหรับยุทธศาสตร์การทำงานเพื่อสนับสนุนการส่งออกให้ขยายตัวที่ 3% ในปี 2560 จะเน้นเสริมสร้างการเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ,การขยายการส่งออกเชิงรุก เจาะเมืองหลักและเมืองรอง รวมทั้งเชื่อมโยงการค้าการลงทุน โดยเน้นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อยกระดับการแข่งขัน การสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าและบริการ รวมทั้งการเจาะตลาดผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงผ่านช่องทางตลาดเฉพาะกลุ่ม(นิชมาร์เก็ต) และผลักดันการสร้างแบรนด์ไทยในต่างประเทศ เป็นต้น
ขณะที่นางพรพิมล เพชรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.)ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยไปตลาดอาเซียน 9 ประเทศในปีนี้คาดจะติดลบ ที่ 0.8% โดยคาดจะมีมูลค่าการส่งออกราว 54,713 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ขยายตัว 7.4% มูลค่า 59,225 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้การส่งออกของอาเซียนได้รับผลกระทบ นอกจากนี้มีหลายอุตสาหกรรมของไทยที่ไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านทำให้ตัวเลขการส่งออกไปขยายตัวในประเทศเหล่านั้นแทน
"สำหรับเป้าหมายส่งออกของไทยไปตลาดอาเซียนในปี 2560 คาดว่าจะขยายตัว 2.5% มีมูลค่าประมาณ 56,054 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปีหน้าสคต.มีแผนการผลักดันให้ทุนไทยไปลงทุนในอาเซียนมากขึ้นและจะส่งเสริมการค้าการลงทุนไปยังเมืองรอง (ซิตี้ โฟกัส) เช่น เวียดนาม ไฮฟอง ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนเหนือ เน้นกิจกรรมแสดงงานสินค้าเพื่อแนะนำสินค้าไทย ขณะที่สินค้าไทยในภาพรวมยังมีศักยภาพโดยเฉพาะในตลาด CLMV"
ทั้งนี้สินค้าและบริการเป้าหมายในปีนี้และปีหน้าที่จะผลักดันไปยังตลาดอาเซียน เช่น อาหาร วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือแพทย์ โลจิสติกส์ ตลาดเฉพาะ วิศวกร บริการสุขภาพ และบันเทิง โดยมีแผนงานและโครงการสำคัญๆโฟกัสไปยังตลาดเมืองหลัก และเมืองรองอย่างต่อเนื่องทั้งปีในสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรการเกษตร อุปกรณ์ผ่านการจัดงานท็อป ไทย แบรนด์ และงานแสดงสินค้าไทยแลนด์วีค ในเมืองหลวงและมินิไทยแลนด์วีค ในเมืองเถิ่นเทอ ไฮฟอง เซบู ไพลิน อูวิน มัณฑะเลย์ มะริด เชียงขวาง และคำม่วน เป็นต้น รวมถึงการผลักดันธุรกิจไทยออกไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ธุรกิจบริการก่อสร้าง ธุรกิจบริการ สุขภาพและความงาม แฟรนไชส์ร้านอาหาร เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,191 วันที่ 11 - 14 กันยายน พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_96713" align="aligncenter" width="700"]
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์(พณ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ 58 แห่งทั่วโลก (9 ก.ย.59) ได้มีการปรับลดเป้าส่งออกในภาพรวมทุกตลาดของไทยในปี 2559 จะติดลบที่ 0.3% ลดลงจากเป้าหมายเดิมขยายตัวที่ 5% มีปัจจัยหลักขากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัว
ขณะที่ได้ประเมินแนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2560 จะขยายตัวได้ที่ 3% โดยได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกตลาดหลักสำคัญๆ ไว้ดังนี้ เช่น สหภาพยุโรป(อียู) ขยายตัว 1%, ตลาดเอเชียตะวันออก เช่น จีน ขยายตัว 3% ,ฮ่องกง 2% ,ไต้หวัน 3% ,ญี่ปุ่น 1% เกาหลีใต้ 0%, สหรัฐอเมริกา 2.9% ตะวันออกกลาง 3.3%,เอเชียใต้ 2% ,อาเซียน 2.5% ,ทวีปออสเตรเลีย 5% ,ลาตินอเมริกา ติดลบ 0.1% โดยเป็นการปรับลดเป้าจากปี 2559 เช่น ตลาดยุโรปขยายตัว 2.8% ตะวันออกกลาง ขยายตัว -3% แอฟริกาขยายตัว-12% ญี่ปุ่น -1.5% จีนขยายตัว 3.5% อินเดียขยายตัว 9% CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม)ขยายตัว 13.6% อาเซียนขยายตัว 6.1% ออสเตรเลียขยายตัว 10% รัสเซียขยายตัว -15%สหรัฐอเมริกาขยายตัว3.1% และลาตินอเมริกา ขยายตัว 17.2%
สำหรับยุทธศาสตร์การทำงานเพื่อสนับสนุนการส่งออกให้ขยายตัวที่ 3% ในปี 2560 จะเน้นเสริมสร้างการเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ,การขยายการส่งออกเชิงรุก เจาะเมืองหลักและเมืองรอง รวมทั้งเชื่อมโยงการค้าการลงทุน โดยเน้นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อยกระดับการแข่งขัน การสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าและบริการ รวมทั้งการเจาะตลาดผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงผ่านช่องทางตลาดเฉพาะกลุ่ม(นิชมาร์เก็ต) และผลักดันการสร้างแบรนด์ไทยในต่างประเทศ เป็นต้น
ขณะที่นางพรพิมล เพชรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.)ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยไปตลาดอาเซียน 9 ประเทศในปีนี้คาดจะติดลบ ที่ 0.8% โดยคาดจะมีมูลค่าการส่งออกราว 54,713 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ขยายตัว 7.4% มูลค่า 59,225 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้การส่งออกของอาเซียนได้รับผลกระทบ นอกจากนี้มีหลายอุตสาหกรรมของไทยที่ไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านทำให้ตัวเลขการส่งออกไปขยายตัวในประเทศเหล่านั้นแทน
"สำหรับเป้าหมายส่งออกของไทยไปตลาดอาเซียนในปี 2560 คาดว่าจะขยายตัว 2.5% มีมูลค่าประมาณ 56,054 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปีหน้าสคต.มีแผนการผลักดันให้ทุนไทยไปลงทุนในอาเซียนมากขึ้นและจะส่งเสริมการค้าการลงทุนไปยังเมืองรอง (ซิตี้ โฟกัส) เช่น เวียดนาม ไฮฟอง ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนเหนือ เน้นกิจกรรมแสดงงานสินค้าเพื่อแนะนำสินค้าไทย ขณะที่สินค้าไทยในภาพรวมยังมีศักยภาพโดยเฉพาะในตลาด CLMV"
ทั้งนี้สินค้าและบริการเป้าหมายในปีนี้และปีหน้าที่จะผลักดันไปยังตลาดอาเซียน เช่น อาหาร วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือแพทย์ โลจิสติกส์ ตลาดเฉพาะ วิศวกร บริการสุขภาพ และบันเทิง โดยมีแผนงานและโครงการสำคัญๆโฟกัสไปยังตลาดเมืองหลัก และเมืองรองอย่างต่อเนื่องทั้งปีในสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรการเกษตร อุปกรณ์ผ่านการจัดงานท็อป ไทย แบรนด์ และงานแสดงสินค้าไทยแลนด์วีค ในเมืองหลวงและมินิไทยแลนด์วีค ในเมืองเถิ่นเทอ ไฮฟอง เซบู ไพลิน อูวิน มัณฑะเลย์ มะริด เชียงขวาง และคำม่วน เป็นต้น รวมถึงการผลักดันธุรกิจไทยออกไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ธุรกิจบริการก่อสร้าง ธุรกิจบริการ สุขภาพและความงาม แฟรนไชส์ร้านอาหาร เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,191 วันที่ 11 - 14 กันยายน พ.ศ. 2559