เน้นประสานพลังประชารัฐพัฒนาแรงงานรับเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร

09 ก.ย. 2559 | 09:32 น.
วันนี้ (9 ก.ย.2559 ) พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน (พลเอก เจริญ นพสุวรรณ) และคณะ ลงพื้นที่ จ.มุกดาหาร เพื่อติดตามผลความก้าวหน้าผลการดำเนินงานด้านแรงงานตามนโยบายของรัฐบาลและตามนโยบายของกระทรวงแรงงาน ทั้งด้านการส่งเสริมการมีงานทำ การพัฒนาทักษะฝีมือ การคุ้มครองแรงงาน และการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว รวมทั้งการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน พร้อมรับฟังประเด็นปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะจากนักธุรกิจ นักลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อาทิ ประธานสภาอุตสาหกรรม ประธานหอการค้า นายกสมาคมไร่อ้อย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาสาสมัครแรงงาน ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร เพื่อนำมาปรับใช้เป็นแนวทางแก้ไขเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายต่อไป

โดยภาคเอกชนได้นำเสนอปัญหาและข้อเสนอแนะหลายประการ อาทิ การพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ การทำงานของแรงงานต่างด้าว ตลอดจนการพัฒนากำลังคนรองรับไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งการพิจารณาอัตราค่าจ้างนั้น กระทรวงแรงงานมุ่งเน้นการใช้อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานเป็นหลัก โดยปัจจุบันมีแล้ว 55 สาขาอาชีพ และกำลังพิจารณาเพิ่มเติมอีก 12 สาขา เพื่อให้แรงงานได้รับอัตราค่าจ้างตามฝีมือซึ่งจะนอกจากแรงงานมีรายได้สูงขึ้นแล้ว สถานประกอบการจะได้มีแรงงานที่มีคุณภาพสามารถเพิ่มผลผลิตด้วย ในส่วนของการพัฒนากำลังคน เน้นบูรณาการการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานร่วมทุกฝ่าย ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ สภาอุตสาหกรรม และภาคเอกชนเพื่อสร้างกำลังคนของประเทศให้มีประสิทธิภาพ และสามารถใช้เทคโนโลยีที่สอดคล้องกับไทยแลนด์ 4.0 ภายใต้8วาระปฏิรูปเร่งด่วน ปี 2560 และยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคน 20 ปี ของกระทรวงฯในส่วนของการจ้างแรงงานต่างด้าว กระทรวงฯได้มีปรับระบบการจัดระเบียบในเรื่องนี้โดยคำนึงในทุกด้านทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างคล่องตัวเพื่อประโยชน์กับทุกฝ่าย

จากนั้นได้ประชุมมอบแนวทางปฏิบัติราชการให้แก่หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดมุกดาหาร นครพนม สกลนคร ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ด้วย โดยแจ้งข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งเน้นย้ำการดำเนินงานให้ใช้กลไก “ประชารัฐ” ประสานพลังจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อร่วมกันผลักดันนโยบายต่าง ๆ สู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานจะต้องเป็นนักประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย และต้องทำงานเชิงรุกใกล้ชิดประชาชนและสนองตอบความต้องการของประชาชนให้รวดเร็ว พร้อมปรับบทบาทการทำงานบูรณาการทำงานทุกภาคส่วน เพราะการทำงานของกระทรวงฯเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ พร้อมให้ติดตามสถานการณ์ด้านแรงงานในพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ทั้ง 5 จังหวัด มีแรงงานไปทำงานต่างประเทศเป็นจำนวนมากขอให้มีการดูแลอำนวยความสะดวกทั้งด้านการฝึกอบรมก่อนเดินทาง การเดินทาง และการไปทำงานในแต่ละประเทศประการสำคัญทุกหน่วยงานต้องปราศจากการทุจริตคอรัปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินงานในทุกด้านให้เป็นไปตามความต้องการและสภาพพื้นฐานของแต่ละพื้นที่ด้วย