รองปลัดกระทรวงแรงงานเปิดแข่งขัน Cabling Contest ปี 4

06 ก.ย. 2559 | 09:18 น.
รองปลัดแรงงาน เปิดการแข่งขันสุดยอดฝีมือสายสัญญาณ (Cabling Contest) ปีที่ 4 เน้นย้ำการแข่งขันชนะหรือไม่ชนะไม่สำคัญเท่าโอกาสที่สำคัญยิ่ง ที่จะได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ ได้ฝึกฝนตนเอง และเราต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคต

นายสุเมธ  มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน  กล่าวในฐานะเป็นประธานเปิดการแข่งขันสุดยอดฝีมือสายสัญญาณ (Cabling Contest) ปีที่ 4 เพื่อเป็นตัวแทนแข่งขันด้านเทคโนโลยีสายสัญญาณในเวทีระดับอาเซียนและระดับโลก ณ ห้องเจ้าพระยาบอลรูม โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค วันนี้ (6 ก.ย. 59) ว่า   เป้าหมายของทุกคนที่เข้าแข่งขันในครั้งนี้ คงไม่ใช่แค่การได้รางวัลชนะเลิศ จะชนะหรือไม่ชนะไม่สำคัญ การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่สำคัญยิ่ง ที่จะได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ ได้ฝึกฝนตนเอง โดยเราต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา  เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคต ทิศทางที่ก้าวมาเป็นทิศทางที่ถูกต้องแล้วที่จะเรียนรู้สายงานวิชาชีพเพื่อเพิ่มทักษะฝีมือ ตลาดแรงงานทั้งในประเทศและทั่วโลกมีความต้องการคนที่มีทักษะด้านวิชาชีพเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่าง ช่างเชื่อม ที่มีประสบการณ์ 4-5 ปี ตั้งใจฝึกฝน สามารถไปทำงานในต่างประเทศได้ สร้างรายได้กว่า 2-3 แสนบาทต่อเดือน เป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่า แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับเพื่อนต่างสถาบันให้ได้มากที่สุด

จากความสำเร็จของโครงการ สุดยอดฝีมือสายสัญญาณ (Cabling Contest) ปีที่ 1-3 ที่ผ่านมา นับเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของวงการศึกษาด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจสายสัญญาณ จึงได้ร่วมกับ กระทรวงแรงงาน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงศึกษาธิการ จัดโครงการสุดยอดฝีมือสายสัญญาณ (Cabling Contest) ขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรี และระดับอาชีวศึกษา ได้เรียนรู้เทคโนโลยีสายสัญญาณที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบัน ผ่านกิจกรรมการอบรมและแข่งขัน ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษา พร้อมต่อยอดทักษะและความรู้ในเวทีระดับโลก ยกระดับคุณภาพสถานศึกษาให้ทัดเทียมระดับนานาชาติ รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งประสบการณ์ที่ผู้ร่วมการแข่งขันจะได้รับในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการพัฒนาทักษะฝีมือแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีสายสัญญาณในประเทศไทยอีกด้วย

โดยกำหนดการแข่งขันคัดเลือกรอบแรก ภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 โรงแรม โกลเด้น ซิตี้ ระยอง, ภาคใต้ 29 กรกฎาคม 2559 โรงแรมบุรีศรีภู สงขลา, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 26 สิงหาคม 2559 โรงแรมเซ็นทารา ขอนแก่น, ภาคกลาง 6 กันยายน 2559 โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ, และภาคเหนือ 21 ตุลาคม 2559 โรงแรม เชียงใหม่แกรนด์วิว เชียงใหม่ ส่วนรอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้  ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือก 55 คน จากทั่วประเทศจะได้รับสิทธิ์เข้าไปแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เพื่อชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี