แคมเปญแสตมป์สุดฮอต! เทสโก้ฯปั้นการ์ตูนใหม่ชิงยอด/บิ๊กซีหั่นเงื่อนไข

09 ก.ย. 2559 | 05:00 น.
แสตมป์ฟีเวอร์! ปลุกยอดขายพุ่งพรวด “เทสโก้โลตัส” เล็งส่งการ์ตูนคาแรกเตอร์ใหม่ลงสนามกระตุ้นยอดขายไตรมาส 4 หลัง “โดราเอมอน” แรงสุดๆ ยอดขายพุ่ง120% เผยปรับยุทธศาสตร์ตอบรับนักช็อปให้เลือกซื้อง่ายสะดวก ทั้งตั้งป๊อปอัพ สโตร์ใจกลางเมือง เพิ่มคู่ค้าให้มีความหลากหลาย ด้าน “บิ๊กซี” รื้อเงื่อนไขใหม่ จาก 500บาท รับแสตมป์ 1 ดวง เป็นจ่ายแค่ 300 บาท รับทันที1 ดวง ส่งผลยอดสะสมเพิ่ม ขณะที่ “ฟิวเจอร์ พาร์ค-สเปลล์” ขอเอี่ยวหนุนลูกค้าทานเพิ่ม

นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหาร “เทสโก้ โลตัส” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ความสำเร็จของแคมเปญแสตมป์ “โดราเอมอน” ซึ่งเริ่มเปิดแคมเปญตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยกลยุทธ์การลดจำนวนแสตมป์ที่ต้องใช้ในการแลกสินค้า จากเดิม 120 ดวงเหลือเพียง 90 ดวง ทำให้ลดกำแพงกั้นในการสะสมแสตมป์ของลูกค้า สามารถสะสมและแลกของพรีเมียมได้เร็วขึ้น ซึ่งพบว่ายอดขายสำหรับสินค้าที่เข้าร่วมโปรแกรมแสตมป์สูงขึ้น โดยเฉลี่ยประมาณ 120% รวมทั้งทำให้ลูกค้าเกิดความจงรักภักดีต่อแบรนด์หรือแบรนด์ลอยัลตี เพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้บริษัทยังสร้างความแตกต่างของแคมเปญสะสมแสตมป์ ด้วยการเปิดร้านป๊อปอัพสโตร์ ในบริเวณที่ไม่มีสาขาของเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ทำให้ลูกค้าสามารถเข้ามาซื้อสินค้าและสะสมสแตมป์ได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถเพิ่มการสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนและวัยทำงานที่อยู่ใจกลางเมืองเพิ่มขึ้น

“ความแตกต่างที่เห็นนอกเหนือจากการเพิ่มป๊อปอัพสโตร์แล้ว ความแตกต่างที่ลูกค้าชื่นชอบคือ ตัวการ์ตูนที่มีความโดดเด่น โดยก่อนที่จะเลือกตัวการ์ตูน มีการทำการวิจัยตลาดเพื่อสำรวจความเห็นลูกค้าเสมอ สินค้าพรีเมียมซึ่งมีคุณภาพสูง การสะสมและแลกได้ง่าย โดยแคมเปญนี้ใช้จำนวนแสตมป์น้อยลงในการแลกของพรีเมียม การร่วมมือกับคู่ค้าในการจัดโปรโมชันให้แสตมป์มากกว่าปกติ ทำให้ลูกค้าสามารถแลกของพรีเมียมได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นและมีความสนุกกับการสะสมมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับสมาชิกบัตรคลับการ์ด ที่สามารถรับแสตมป์เพิ่มและบัตรชมภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์และอีจีวีฟรี พร้อมกับการให้ value top-up กับลูกค้า โดยของพรีเมียมที่แลกไปเช่น กระบอกน้ำและกล่องใส่อาหาร สามารถนำมาต่อยอดด้วยการเติมน้ำอัดลมได้ในราคา 10 บาท และกล่องใส่อาหาร นำมาแลกซื้อขนมปังใส่ไส้ 2 ชิ้นได้ในราคา 19 บาท ทุกวันตลอดแคมเปญที่เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส เป็นต้น”

อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของแสตมป์โดราเอมอน ทำให้เทสโก้ โลตัสมีแผนเปิดตัวแคมเปญแสตมป์ใหม่ ในไตรมาส 4 นี้ โดยจะเป็นตัวการ์ตูนใหม่ และจะมีขั้นตอนการสะสมแสตมป์แบบใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะสร้างสีสันและความตื่นเต้นให้กับลูกค้าได้ในช่วงเทศกาล ซึ่งเชื่อมั่นว่าในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไฮซีซันของธุรกิจ และเป็นช่วงเทศกาล จะมีความคึกคักในการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าและประชาชนสูง รวมทั้งสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของลูกค้า จะทำให้กำลังซื้อดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ด้านนางสาวเจียระไน บุญประสาทสุข ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ และธุรกิจค้าส่ง บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (บีเจซี) ผู้บริหาร “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” กล่าวว่า บิ๊กซี ถือเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตแรกที่ริเริ่มแคมเปญสะสมแสตมป์ ทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่มีลอยัลตี ที่ชื่นชอบและติดตามแคมเปญนี้เป็นจำนวนมาก โดยลูกค้ากลุ่มหลัก คือกลุ่มแม่บ้านยุคใหม่ที่มีความฉลาดซื้อและให้ความสำคัญกับคุณภาพและประโยชน์ใช้สอยของสินค้า ดังนั้นสินค้าพรีเมียมของบิ๊กซีจึงเน้นให้เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวที่มีมาตรฐานและคุณภาพสูง

โดยปีนี้ เป็นการแลกซื้อมีดคุณภาพสูงมาตรฐานเยอรมนี Vivo และมีให้เลือกสะสมถึง 7 แบบ ในราคาแลกซื้อชิ้นละ 1 บาททำให้ลูกค้าสามารถสะสมและแลกซื้อได้ง่าย ทั้งนี้บริษัทให้ความสำคัญในการพัฒนาแคมเปญอย่างต่อเนื่องในหลายด้าน ตั้งแต่ การนำเสนอโปรโมชั่นที่ทำให้ลูกค้าสะสมแสตมป์ได้ง่ายขึ้น สะสมแสตมป์ได้ครบเร็วขึ้น เมื่อช็อปครบทุก 300 บาท จะได้รับแสตมป์ 1 ดวง จากเดิมที่ต้องช็อปครบทุก 500 บาท จึงจะได้แสตมป์ 1 ดวง อย่างไรก็ดีคาดว่าแคมเปญนี้จะช่วยเพิ่มยอดการจับจ่ายและความถี่ของการมาซื้อสินค้า โดยเฉลี่ยมียอดการใช้จ่ายของลูกค้าต่อบิล เพิ่มกว่า 15% และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้เมื่อแคมเปญใกล้จบในเดือนตุลาคมนี้

ส่วนนางรัตนา อนันทนุพงศ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาดศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด กล่าวว่า ฟิวเจอร์ พาร์คและสเปลล์จัดแคมเปญสะสมแต้มขึ้นภายใต้ชื่อแคมเปญ “Viva Weekday” เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็นประจำ และถี่มากขึ้น โดยส่วนใหญ่ใช้กับร้านอาหาร และสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ อาทิ Gyu-Kaku ,Wine I Love You Easy Caf?, Muteki by mugendai, Hokkaido Tsubohachi, BonChon Chicken, Kelly by Audrey, After you , CPS CHAPS, CC Double O, Dapper, Charles & Keith, Uniqlo ฯลฯ โดยลูกค้าที่รับประทานอาหารครบทุก 500 บาทจะได้รับแสตมป์ 1 ดวง สะสมครบตามที่กำหนดสามารถแลกรับสินค้าตามที่กำหนด อาทิ ถ้วยกาแฟ เคท คิทสัน , เครื่องชงกาแฟ วีรสุ เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ยอดใช้จ่ายต่อบิลที่สูงขึ้นและการเข้ามาใช้บริการมากขึ้น

ขณะที่ผู้นำด้านการสะสมแสตมป์อย่าง “เซเว่น อีเลฟเว่น” ที่พบว่า ปีนี้ปรับเปลี่ยนนโยบายในการสะสมแสตมป์ โดยเพิ่มช่องทางการสะสมแสตมป์ผ่านการสแกนบาร์โค้ด M-Stamp เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าด้วยการสะสมแสตมป์ผ่านสมาร์ทโฟน ขณะที่ไฮไลต์แคมเปญ แสตมป์เพื่อนที่รู้ใจ เป็นการสะสมของพรีเมียมคิตตี้ ซานริโอและไลน์เฟรนด์ส ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยพบว่า สินค้าที่เข้าร่วมการจัดโปรโมชั่นสะสมแสตมป์จะมียอดขายสูงกว่าปกติ ทำให้สินค้าไม่เพียงพอกับการจำหน่าย และการจัดแคมเปญครั้งนี้ มีผู้ประกอบการแสดงความสนใจเข้าร่วมโปรโมชั่นจำนวนมาก ส่งผลให้ต้องจัดรอบการแลกรับสินค้าให้เร็วขึ้น และมีรอบการจัดโปรโมชันที่เร็วขึ้นเช่นกันด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,190 วันที่ 8 - 10 กันยายน พ.ศ. 2559