‘โชว์ ดีซี’วางโรดแมป ปักธงทั่วอาเซียน 12 แห่ง ใน 10 ปี

10 ก.ย. 2559 | 13:00 น.
หลังจากบริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ประกาศแผนการลงทุนผุดศูนย์การค้าขนาดใหญ่ "โชว์ ดีซี" (SHOW DC)ด้วยแนวคิด "ช็อป&เอ็นจอย" รวบรวมแหล่งช็อปปิ้ง กิน ดื่ม และความบันเทิง รวมถึงวัฒนธรรมทั้งของไทยและประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชีย มาไว้ในที่เดียวกัน

[caption id="attachment_95885" align="aligncenter" width="335"] ชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ชยดิฐ หุตานุวัชร์
ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด[/caption]

"ชยดิฐ หุตานุวัชร์"ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ได้พาคณะสื่อมวลชนบินลัดฟ้าเยือนประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม - 1 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อให้ได้สัมผัสกับกลิ่นอายของความเป็น "เกาหลี" ก่อนที่จะได้สัมผัสถึงประสบการณ์จริงพร้อมกับฉายภาพธุรกิจในอนาคต

ตั้งเป้าเปิดบริการพ.ย.นี้

"ชยดิฐ" เผยว่าปัจจุบันโครงการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% เหลือการตกแต่งเพียงเล็กน้อย ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จโครงการนี้จะมีพื้นที่ภายในอาคาร 1.8 แสนตารางเมตร บนเนื้อที่ 43 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนจตุรทิศ ใกล้ทางด่วนพระราม 9 อาร์ซีเอ และสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน มีมูลค่าการลงทุนถึง 9,500 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเริ่มแรกที่เตรียมงบประมาณไว้ 2,000-3,000 ล้านบาท และปรับเพิ่มเป็น 5,500 ล้านบาท ก่อนมาจบลงด้วยมูลค่า 9,500 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้สนใจเข้าจองพื้นที่แล้วกว่า 93% ทำให้มั่นใจได้ว่า โครงการจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการตามแผนที่วางไว้ในเดือนพฤศจิกายนนี้

K-District ใหญ่สุดนอกเกาหลี

จุดขายสำคัญที่โชว์ ดีซี หยิบมาเป็นกิมมิกของศูนย์การค้า เพื่อเรียกคนเข้าไปใช้บริการ คือการผนึกThe Mall of Korea (MOK) พันธมิตรหลักของ โชว์ ดีซี มาสร้างความแตกต่าง ด้วยการลงทุนพัฒนาโซน K-Town เมืองเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศเกาหลี กับขนาดพื้นที่กว่า 1.8 หมื่นตารางเมตร ที่ประกอบไปด้วยโซนแฟชั่น อาหาร ไลฟ์สไตล์ และความบันเทิงต่างๆ ที่ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท

ดร.จูเลี่ยน เฮอร์ รองประธานกรรมการของ MOK ยังตอกย้ำถึงกระแสวัฒนธรรมของเกาหลีที่ได้รับความนิยมและแผ่อิทธิพลไปในเอเชียและหลายพื้นที่ทั่วโลก การร่วมมือระหว่าง MOK กับโชว์ ดีซี ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเสริมสร้างศักยภาพและยกระดับธุรกิจค้าปลีกทั้งของไทยและเกาหลีร่วมกันไปอีกขั้น ที่จะนำเสนอความบันเทิงที่หลากหลายของเกาหลี

"เราเชื่อมั่นในศักยภาพทั้งด้านทำเลที่ตั้ง และคอนเซ็ปต์ของห้างโชว์ ดีซี ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เราจึงมาร่วมทุนพัฒนา K-District @SHOW DC กับโชว์ ดีซี"

นอกจากนี้ โชว์ ดีซี ยังมีหนึ่งในบรรดาผู้เช่ารายใหญ่ คือ YG Entertainment ค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปิน K-Pop ชื่อก้องโลก อาทิ วงบิ๊กแบง (BIGBANG) และไซ กังนัมสไตล์ โดย YG Entertainment จับจองพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร นำร้านอาหารของศิลปินดังเกาหลีมาเปิดให้ลองลิ้ม อาทิ ร้านไซ ราเม็ง (Psy Ramen )ของไซ กังนัมสไตล์ และร้านอาหาร After Rain ของ นักร้องหนุ่ม Rain และ BTS' BRICK CAFE ของวง BTS บอยแบนด์สุดฮอต เป็นต้น

[caption id="attachment_95886" align="aligncenter" width="500"] K-District @SHOW DC K-District @SHOW DC[/caption]

ปูพรม12แห่งทั่วอาเซียน

การลงทุนในประเทศไทยถือเป็นจุดเริ่มต้นของ "ชยดิฐ" ที่ต้องการสร้างอาณาจักร โชว์ ดีซีให้ครอบคลุมอีกหลายแห่งทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยวางเป้าหมายผุดศูนย์การค้าในรูปแบบที่เปิดในประเทศไทยจำนวน 12 แห่งภายใน 10 ปี ให้ได้ทั่วภูมิภาคอาเซียน แต่สำหรับสาขาแห่งที่ 2 จะเริ่มต้นขยายการลงทุนในปี 2560 ซึ่งจะขยายไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อด้วยจังหวัดภูเก็ต ขณะที่สาขาแรกในต่างประเทศ จะเริ่มการลงทุนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยรูปแบบการลงทุนนั้นจะมีขนาดตั้งแต่ 1 หมื่นตารางเมตร ใช้งบลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท ใช้โมเดลการลงทุนลักษณะเดียวกับประเทศไทย

จากจุดเด่นและความครบวงจร "ชยดิฐ" คาดว่า จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทยให้เข้ามาใช้บริการได้ประมาณ 1 แสนคนต่อวัน โดย 50% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นับวันจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขคาดการณ์ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ประกาศว่า ในปี 2560 จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยถึง 37 ล้านคน และอีก 50% เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย

โดยการลงทุนครั้งนี้ "ชยดิฐ" ตั้งใจให้ โชว์ ดีซี เป็น Landmark of Destination ที่สำคัญของประเทศไทย และของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะช่วยเสริมแกร่งภาพลักษณ์ให้ประเทศกลายเป็นจุดศูนย์กลางการช็อปปิ้งและความบันเทิงแห่งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนสักครั้ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,190 วันที่ 8 - 10 กันยายน พ.ศ. 2559