กรุงไทยฯทุ่มกว่าพันล้าน เพิ่มพอร์ตรถใหม่เสริมทัพ–ลุยเปิดธุรกิจรถมือสอง

09 ก.ย. 2559 | 04:00 น.
กรุงไทยคาร์เร้นท์แอนด์ลีส ตั้งเป้าโกยกำไรปี 59 เติบโต 20 % พร้อมกางแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง เตรียมงบประมาณกว่า 1 พันล้านซื้อรถใหม่ พันคันเสริมทัพธุรกิจรถเช่า ด้านธุรกิจรถมือสอง เล็งขยายสาขาโตโยต้าชัวร์แห่ง ที่ 4 ในปี 2560

นายพิชิต จันทรเสรีกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์แอนด์ลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ถึง แผนงานช่วงครึ่งปีหลังได้เตรียมงบประมาณมากกว่า 1 พันล้านบาทในการบริหารจัดการธุรกิจ โดยแบ่งออกเป็น 700 ล้านบาทเพื่อซื้อรถใหม่เข้าพอร์ทรถเช่าระยะยาว ภายใต้ชื่อกรุงไทยคาร์เร้นท์ และอีกกว่า 300 ล้านบาท นำมาใช้ในธุรกิจอื่นของในเครือ ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1- 2 ของบริษัทฯมีอัตราการเติบโต 20 %

“ครึ่งปีแรกเรามีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท ถือว่าเติบโตสวนทางกับภาพรวมตลาด ซึ่งเราพยายามที่จะบริหารจัดการ มีการควบคุมต้นทุน เพิ่มช่องทางการจำหน่ายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เราเติบโต และจนถึงสิ้นปีเราก็ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีกำไร 30 -40 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรประมาณ 200 ล้านบาท”

นายพิชิต กล่าวต่อว่า สำหรับแผนธุรกิจในส่วนของรถเช่าระยะยาวนั้น ปัจจุบันบริษัทฯมีรถเช่าอยู่ในพอร์ทประมาณ 7 พันคัน แบ่งออกเป็นลูกค้ากลุ่มเอกชน 70 % และลูกค้าจากหน่วยงานรัฐ 30 % โดยตลาดนี้ถือว่ามีการเติบโต และมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ซึ่งบริษัทฯนอกจากจะลงทุนซื้อรถใหม่อีกกว่า 1 พันคันเข้ามาในพอร์ทแล้ว ยังมีแผนจะขยายฐานลูกค้า และจะดูแลลูกค้าเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด โดยเฉพาะบริการหลังการขาย

“ธุรกิจรถเช่ามีการเติบโต ทั้งแบบระยะสั้น ระยะยาว โดยแบบระยะสั้นมีการเติบโตตามธุรกิจท่องเที่ยว ส่วนแบบระยะยาว ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากกลุ่มองค์กรต่างๆที่หันมาเลือกใช้ โดยบริษัทให้บริการเฉพาะกลุ่มระยะยาว และมีการคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้า มากกว่าจะใช้ราคาเข้ามาแข่งขัน โดยเราจะเน้นทั้งการบริการ การประกัน การซ่อม การจัดหารถที่ดีที่สุด และหลังจากครบสัญญาจะสามารถบริหารจัดการค่าซากได้อย่างคุ้มค่าที่สุด “

ขณะที่ธุรกิจรถมือสอง - รถใช้แล้ว ภายใต้แบรนด์โตโยต้าชัวร์ และบริหารงานโดยบริษัท กรุงไทย ออโตโมบิล จำกัด ปัจจุบันเปิดให้บริการ 3 สาขาได้แก่ เกษตร-นวมินทร์ ,ศรีนครินทร์ ,วงแหวนกาญจนาภิเษก และในปี 2560 เตรียมจะเปิดสาขาใหม่อีก 1 แห่งบนถนนวงแหวนรอบนอกในเบื้องต้นได้เตรียมงบประมาณ 30 ล้านบาท

นายพิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ทิศทางของตลาดรถมือสองเริ่มดีขึ้น โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ๆจะได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินในการให้สินเชื่อกับลูกค้า เพราะรถใหม่ขายได้ลดลง จึงต้องโฟกัสที่รถใช้แล้ว อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการที่เป็นรายย่อย เต้นท์เล็กๆ อาจจะอยู่ในภาวะทรงตัว ส่วนราคารถในปัจจุบันมีการขยับบ้างเล็กน้อย ยกตัวอย่าง รถปิคอัพ ที่มีการเปิดรุ่นใหม่หลายรุ่น ทำให้รถมือสองมีการปรับลดลง 5 -10 % ขณะที่รถอีโคคาร์ หรือรถในกลุ่ม 1.5 ลิตรนั้น คาดว่าจะเริ่มทยอยเข้ามาในตลาดมือสองในช่วงปีหน้ามากขึ้น เพราะใกล้ครบเงื่อนไขการถือครองรถยนต์คันแรก 5 ปี โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจรถใช้แล้วปี 2559 ไว้ที่ 20 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้

“ราคารถปิคอัพลดลงเล็กน้อย เพราะมีโมเดลใหม่เข้ามาในตลาด ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่ค่อยดี ราคาพืชผลทางการเกษตรก็ส่งผลกระทบกับกลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อรถเซกเมนต์นี้ ทำให้ราคาโดยรวมมีการปรับตัว ส่วนรถในโครงการรถคันแรกนั้น ในปีนี้น่าจะเห็นน้อย แต่น่าจะมีผลในกลางปีหน้าขึ้นไป ซึ่งต้องดูว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน และจะส่งผลต่อราคาอย่างไร แต่เบื้องต้นบางส่วนก็มีการยึดไปบ้างแล้ว เพราะไม่มีความสามารถในการผ่อนชำระ”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,190 วันที่ 8 - 10 กันยายน พ.ศ. 2559