สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางค้าเงิน รักษาแชมป์ใหญ่สุดในเอเชีย

หนังสือพิมพ์สเตรตส์ไทม์ส รายงานว่า สิงคโปร์ยังคงสถานะเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราใหญ่และค้าเงินที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก และเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากลอนดอนและนิวยอร์ก

รายงานจากธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ ซึ่งสำรวจและเก็บข้อมูลทุก 3 ปีจากศูนย์แลกเปลี่ยนเงินและตลาดอนุพันธ์ประเภทตลาดต่อรองหรือโอเวอร์เดอะเคาน์เตอร์ทั่วโลก พบว่าการค้าขายเงินตราต่างประเทศในสิงคโปร์เฉลี่ยในแต่ละวันในเดือนเมษายน 2559 ที่ผ่านมา มีมูลค่า 517,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 18.612 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 35% จาก 383,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13.788 ล้านล้านบาท) เมื่อ 3 ปีก่อน

การสำรวจพบว่าสัดส่วนตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของโลกของสิงคโปร์ในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 5.7% เมื่อ 3 ปีก่อนเป็น 7.9% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาโดยการเพิ่มขึ้นของสัดส่วน ดังกล่าวเกิดจากการขยายตัวของธุรกรรมเงินหยวน เงินเยน เงินปอนด์ของอังกฤษและเงินวอนของเกาหลีใต้

สเตรตส์ไทม์ส อ้างข้อมูลจากการสำรวจระบุว่า การค้าเงินตราต่างประเทศในสิงคโปร์ส่วนใหญ่การการสว็อปค่าเงิน ซึ่งมีสัดส่วน 48% ของธุรกรรม โดยมีสัดส่วนการค้าแบบสปอตและฟอร์เวิร์ด ตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3

นางแจคเกอลีน โลห์ (Jacquelin Loh) รองผู้ว่าการ Monetary Authority of Singapore-MAS ซึ่งเป็นธนาคารกลางของสิงคโปร์กล่าวว่า กฎระเบียบของธนาคารกลาง มีความสอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของอุตสาหกรรมการเงิน ซึ่งเป็นการส่งเสริมทางด้านราคา สภาพคล่อง และความโปร่งใสของตลาดเงินตราต่างประเทศ โดยการใช้ระบบการค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์และโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสามารถ

ทางด้านนายแอนดรูว์ อึ้ง หัวหน้าฝ่ายการคลังและตลาดของธนาคารดีบีเอสกล่าวว่า ความผันผวนของค่าเงินโลกทำให้เกิดการทำคํ้าประกันความเสี่ยงค่าเงินมากขึ้น เกิดการสว็อปมากขึ้นจากภาวะอัตราดอกเบี้ยติดลบ โดยทั้งหมดทำให้ปริมาณการค้าเงินในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,190 วันที่ 8 - 10 กันยายน พ.ศ. 2559