ปูพรมแฟรนไชส์ร้านอาหารด่วน ส.ขอนแก่นหวังยอดขาย140ล้าน

07 ก.ย. 2559 | 09:00 น.
ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ ปรับแนวทางทำธุรกิจร้านอาหารจานด่วน ดันเป้าการเติบโต 40% หวังโกยยอดขาย 140 ล้าน เน้นขายแฟรนไชส์แทนการลงทุนเอง เดินหน้าปั๊มสาขาร้านข้าวขาหมูยูนนาน และ ร้านแซ่บ คลาสสิก ครอบคลุมทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน

นายจรัสภล รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ อาทิ แบรนด์ส.ขอนแก่น อองเทร่ เป็นต้น เปิดเผยว่า ได้มีการปรับแนวทางดำเนินธุรกิจของกลุ่มร้านอาหารบริการด่วนใหม่ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เพื่อสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้น 40% หรือมียอดขายประมาณ 140 ล้านบาทในปีนี้ ปัจจุบันมีร้านอาหารจานด่วนเปิดให้บริการ 2 แบรนด์ได้แก่ ร้านข้าวขาหมูยูนนาน และร้านแซ่บ คลาสสิก

โดยร้านข้าวขาหมู ยูนนาน จะเน้นการขยายสาขาด้วยการขายแฟรนไชส์ให้แก่ผู้ที่สนใจ จากเดิมที่บริษัทเป็นผู้ลงทุนเอง ปัจจุบันมีร้านข้าวขาหมูยูนนานทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวม 35 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศไทย 32 แห่งและต่างประเทศ 3 แห่งได้แก่ สปป.ลาว 2 แห่งและกัมพูชา 1 แห่งโดยในไตรมาส 4 ปีนี้ จะเปิดสาขาใหม่ในประเทศ สปป.ลาว เพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งและที่ประเทศกัมพูชา 2 แห่ง ในรูปแบบของแฟรนไชส์ พร้อมกันนี้จะปรับร้านสาขาข้าวขาหมูยูนนานซึ่งเป็นสาขาเดิมในประเทศไทยให้เป็นรูปแบบของแฟรนไชส์เช่นกัน รวมถึงจะเพิ่มเมนูอาหารใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรายการอาหารให้มากขึ้น เช่น ติ่มซำและเมนูเกี่ยวกับผักต่าง ๆ เป็นต้น

ขณะที่ร้านแซ่บ คลาสสิก จะปรับรูปแบบสาขาเน้นให้บริการจัดส่งอาหารถึงบ้าน(Delivery) โดยจะเปิดร้านต้นแบบภายใต้การให้บริการดังกล่าว ควบคู่ไปกับการขยายสาขาแฟรนไชส์ในร้านรูปแบบเดิม เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสาขาในประเทศรวม 8 แห่ง และวางแผนขยายเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่งภายในปีนี้ แบ่งเป็นแฟรนไชส์ 2 แห่ง และบริษัทลงทุนเอง 2 แห่ง โดยในส่วนที่บริษัทเป็นผู้ลงทุนเองนั้น จะมี 1 แห่งที่จะเป็นโมเดลต้นแบบร้านที่รองรับบริการจัดส่งสินค้าอาหารถึงบ้านอย่างเต็มตัว ภายในเดือนกันยายนนี้ อยู่ในย่านหลักสี่ หลังจากมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากความต้องการสั่งซื้ออาหารแบบดีลิเวอรีที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น

“การรุกขยายบริการแบบดีลิเวอรีนั้น เนื่องจากเราพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ จึงนิยมสั่งอาหารจากนอกบ้านมาทานมากขึ้น โดยทำเลหลักสี่ถือเป็นหนึ่งในโซนที่มีคอนโดมิเนียมและอพาร์ตเมนต์อยู่เป็นจำนวนมาก จึงมั่นใจว่าการเปิดทดลองให้บริการร้านแซ่บ คลาสสิก ในรูปแบบดีลิเวอรีสาขาแรก จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและพร้อมจะขยายสาขาในรูปแบบดังกล่าวต่อไปในอนาคต” นายจรัสภล กล่าวและว่า

ส่วนภาพรวมธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนนั้น มองว่ายังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีบริการแบบดีลิเวอรีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นยังมีไม่มากนัก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,187 วันที่ 4 - 7 กันยายน พ.ศ. 2559