'พะงันโมเดล' ชุมชนท้องถิ่นผนึกกำลัง สร้างภาพลักษณ์บูมแหล่งท่องเที่ยว

20 ส.ค. 2559 | 02:55 น.
"Full Moon Party" คือที่มาของชื่อเสียงเกาะพะงัน ที่ทั้งไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จัก พร้อมกับภาพลักษณ์ทางด้านลบ ที่มีทั้งเรื่องยาเสพติด เซ็กส์ มาเฟีย และความไม่ปลอดภัย แต่จากการลงสำรวจพื้นที่ และพูดคุยกับเอกชนผู้ประกอบการของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า พะงัน ไม่ใช่แค่ "ฟูลมูนปาร์ตี้" แต่ยังมีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจสำหรับนักทอ่เงที่ยว ซึ่งปัจจุบันบรรดาผู้ประกอบการและคนท้องถิ่นได้รวมตัวกัน ช่วยดูแลรักษา โดยตั้งเป็น "ชมรมผู้ประกอบการหาดริ้น" ซึ่งเป็นหาดที่จัดฟูลมูนปาร์ตี้ รวมถึงมี "สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะพะงัน" และ "สมาคมโรงแรมเกาะพะงัน" ที่ดูแลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยตรง

ก่อนหน้านี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดแบ่งโซนการท่องเที่ยวบนเกาะ ออกเป็น 5 โซน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ โซน 1 ไลฟ์สไตล์ รวมสิ่งอำนวยความสะดวก ธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ ท่าเทียบเรือ หาดในวก หาดท้องศาลา, โซน 2 ไนท์ไลฟ์ เป็นสถานที่จัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ หาดริ้นใน หาดริ้นนอก มีหาดทรายขาวละเอียดยาว 700 เมตร, โซน 3 เป็นโซนอนุรักษ์ธรรมชาติ สัตว์ป่า ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เช่น หาดธารเสด็จ เดินสำรวจป่า, โซน 4 วิถีชีวิตชาวประมง ดำน้ำ อาหารทะเล หาดโฉลกหลำ แหล่งอาหารทะเล หาดแม่หาด ทะเลแหวกอยู่ใกล้เกาะม้า ที่ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น และโซน 5 แหล่งการพักผ่อนเพื่อสุขภาพ โยคะเพื่อสุขภาพ อาทิ หาดปลายแหลม หาดหินกอง

IMG_8700 นายจเร ภิญโญศิริกุล ประธานชมรมผู้ประกอบการหาดริ้น และเจ้าของทอมมี่ รีสอร์ท เกาะพะงัน กล่าวว่า ที่เกาะพะงันและฟูลมูนปาร์ตี้ มีการจัดระเบียบมาระยะหนึ่งแล้ว หลังจากที่ต่างคนต่างทำ จนกระทั่งมาจัดตั้งเป็น "ชมรมผู้ประกอบการหาดริ้น" ตั้งแต่ปี 2551 มีนโยบาย 12 ข้อ และที่เน้นมากๆ คือ 1. ความปลอดภัย ทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว 2. ความสะอาด และ 3. สิ่งแวดล้อม ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มีสภาพคงเดิม

[caption id="attachment_87755" align="aligncenter" width="503"] Phangan Phangan[/caption]

ชมรมผู้ประกอบการหาดริ้น ไม่ได้ดูแลเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวฟูลมูน แต่ยังดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเกาะพะงันทั้งหมด เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว โดยเริ่มจากการสร้างหาดริ้นให้เป็นระบบ มีการลงทุนซื้อรถร่อนทรายตักขยะจากเยอรมันมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท เพื่อรักษาความสะอาดบนหาดริ้น โดยเฉพาะหลังงานฟูลมูนปาร์ตี้ มีการติดกล้องวงจรผิดทั่วหาดกว่า 100 ตัว มีระบบรักษาความปลอดภัย การให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบปัญหาต่างๆ โดยในงานฟูลมูนปาร์ตี้ จะเก็บค่าเข้าร่วมงานคนละ 100 บาท เพื่อนำรายได้มาบริหารจัดการ ทั้งเรื่องของ ไฟฟ้า แสงสว่าง การรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด รวมทั้งดูแลเรื่องยาเสพติด

นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวฟูลมูนปาร์ตี้ มากกว่า 90% เป็นต่างชาติ และเข้าพักในโรงแรมอย่างน้อย 2-3 คืน เฉพาะนักท่องเที่ยวในหาดริ้น มีการใช้จ่ายต่อคนต่อคืนไม่ต่ำกว่า 5 พันบาทต่อหัว โดยอัตราค่าห้องพักในหาดริ้นอยู่ระหว่าง 2-3 พันบาทต่อคือ ทำให้มีเงินสะพัดในหาดริ้นประมาณ 600 ล้านบาทต่อเดือน

การใส่ใจร่วมมือกันของคนท้องถิ่น ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจและกลับมาเที่ยวซ้ำ โดยไม่ได้เน้นเพียงแค่การมาฟูลมูนปาร์ตี้ แต่นิยมมามาพักผ่อนระยะยาว เพราะที่เกาะพะงันยังมีความสงบและมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก และการแบ่งโซนออกเป็น 5 โซนก็ช่วยทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะพะงันมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

[caption id="attachment_87760" align="aligncenter" width="377"] Phangan Phangan[/caption]

นางสาวจารุณี คิดจิตต์ ผู้จัดการ และเจ้าของ โรงแรม พะงัน คาบาน่า บีท รีอสร์ท แอนด์ เรสเตอร์รองส์ กล่าวว่า จุดขายของเกาะพะงัน ก็คือเรื่องของปาร์ตี้ ฉะนั้นกลุ่มผู้ประกอบการที่นี่ จึงใช้ฟูลมูนปาร์ตี้เป็นใบเบิกทาง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวก่อน หลังจากนั้น จึงนำเสนอแพ็คเกจ สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ดำน้ำ ธรรมชาติ โยคะ โดยเฉพาะที่ หาดเจ้าเภาซึ่งเป็นที่ตั้งของพะงัน คาบาน่า อยู่ในโซน 5 นอกจากกจะมีเรื่องของสุขภาพแล้ว จะเป็นมุมที่นั่งชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม และยังมีแหล่งดำน้ำ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของแนวปะการัง ที่ยังมีความสมบูรณ์สูง มีฉลามวาฬที่นักดำน้ำชื่นชอบ

[caption id="attachment_87758" align="aligncenter" width="503"] Phangan Phangan[/caption]

กลุ่มที่เดินทางมาเที่ยวปาร์ตี้ที่พะงัน จะเป็นกลุ่มวัยรุ่น แต่พอเป็นช่วงวันธรรมดาที่ไม่ใช่ฟูลมูน ก็จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาพักผ่อน 97% เป็นต่างชาติ แต่ปีนี้เนื่องจากพะงันเริ่มไปทำตลาดที่ศูนย์สิริกิติ์ ทำให้มีคนไทยเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 10% โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว จะมีคนไทยเข้ามาเที่ยวเยอะ และเกาะพะงันยังถือเป็นเดสติเนชั่นใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำให้ระยะหลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวคนไทยมากขึ้น

unnamed นายอภิชาติ ลิ้มสุวรรณ เจ้าของโฮมมาร์ท และตรีชาติ โฮสเทล กล่าวว่า เกาะพะงันได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เพราะความสงบและความเป็นธรรมชาติ ส่วนเรื่องของปาร์ตี้ คือจุดขายที่ทำให้คนรู้จักเกาะพะงันมากขึ้น และหลังเหตุการณ์สึนามิ ทำให้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวทะเลฝั่งพะงัน ที่ผ่านมา มีการอัพเกรดโรงแรมจาก 3-4 ดาว มาเป็น 4-5 ดาว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มีกำลังจ่าย ทำให้ธุรกิจโรงแรมระดับบนขยายตัวขึ้น 5% ขณะที่กลุ่มระดับกลางยังคงขยายตัวมาก ทั้งกลุ่มบังกะโล รีสอร์ท 2-3 ดาว ขยับตัวขึ้นเป็นโฮสเทล รองรับตลาดแบ็คแพ็คเกอร์ ที่เติบโตเฉลี่ย 20-30%

อย่างไรก็ตาม ภาพของปาร์ตี้บนเกาะพะงันเริ่มเปลี่ยนไป โดยคนท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมและผู้ประกอบการส่วนใหญ่บนเกาะช่วยกันพัฒนา และสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ภาพของปาร์ตี้ที่มีความเป็นสากล ทันสมัยมากขึ้น มีการจ้างดีเจระดับโลกมาเล่น คืนละ 2-3 แสนบาท ไม่ว่าจะเป็นฟูลมูนปาร์ตี้ จังเกิลปาร์ตี้ ฮาฟมูนปาร์ตี้

[caption id="attachment_87757" align="aligncenter" width="503"] Phangan Phangan[/caption]

"เราอยากให้ปาร์ตี้อยู่คู่กับเกาะพะงัน แต่ไม่อยากให้มีเรื่องมิชฉาชีพ และสิ่งเสพติด ต้องน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้มันไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เรามีโซนในการจัดปาร์ตี้ มีขอบข่าย ปาร์ตี้ ไม่สะเปะสะปะ ชาวบ้านยอมรับได้ สิ่งที่ได้คือ การสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนท้องถิ่น รายได้ของโรงแรม วันปกติมี 15-20 ห้อง แต่พอมีฟูลมูนคนก็จะเข้าพักเต็ม" นายอภิชาติกล่าว


1 นางสาวฉันทนา ลิ้มสุวรรณ เจ้าของโรงแรม จันทรามาส รีสอร์ท แอนด์สปา กล่าวว่า ที่เกาะพะงันคนท้องถิ่นยังมีความเข้มแข็ง สมาคมโรงแรมฯ มีการพูดคุยกัน ให้เงินสนับสนุนเพื่อพัฒนาท้องถิ่นของตัวเอง อนาคตจะมีการวางมาตรการ สร้างเป็นกฎระเบียบของเกาะสำหรับการทำธุรกิจ ไม่ใช่ว่ามีเงินทุนแล้วมาเปิดบริการได้เลย ซึ่งนี้หลายๆ ฝ่ายต้องผนึกกำลังกัน ไม่ว่าจะเป็นสมาคมโรงแรม ชมรมผู้ประกอบการ เทศบาล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นเดียวกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีการทำธุรกิจอำพรางหรือนอมินี

IMG_8832 ที่ผ่านมา เปรียบเทียบจำนวนนักท่องเที่ยว ปี 2556 ภูเก็ต มีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2.6 ล้านบาท เกาะสมุย 3 หมื่นล้านบาท เกาะพะงัน 8.1 พันล้านบาท ปี 2557 ภูเก็ต มีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2.59 แสนล้านบาท เกาะสมุย 3.6 หมื่นล้านบาท และเกาะพะงัน 8.9 พันล้านบาท รายได้เฉลี่ยจากการท่องเที่ยวของเกาะพะงันอยู่ที่กว่า 8-9 พันล้านบาทต่อปี จากจำนวนนักท่องเที่ยวราว 1 ล้านคน และมีการประเมินกันว่าหากมีสนามบินที่เกาะพะงัน จะทำให้ยอดรายได้พุ่งถึง 10,000 ล้านบาทได้ภายในปี 2560

รายงาน : พัฐกานต์ เชียงน้อย

IMG_8826