เบร็กซิทยังไม่สะเทือนผู้บริโภค ตัวเลขค้าปลีกอังกฤษเดือนก.ค.ขยายตัวเกินคาดหมาย

24 ส.ค. 2559 | 10:00 น.
ผู้บริโภคชาวอังกฤษไม่หวั่นความไม่แน่นอนจากเบร็กซิท โดยยอดค้าปลีกฟื้นตัวขึ้น 1 เดือนหลังจากการทำประชามติ จากอานิสงส์ของอากาศที่อบอุ่นขึ้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดัชนีอย่างเป็นทางการดัชนีแรกที่บ่งชี้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวอังกฤษหลังการทำประชามติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ชี้ว่า ยอดขายจากการค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนกรกฎาคม หลังจากปรับลดลง 0.9% ในเดือนมิถุนายน จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ

ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า การตัดสินใจลงมติออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษนั้น ยังส่งผลกระทบในวงจำกัดต่อเศรษฐกินระยะสั้น และบรรเทาความกังวลว่าเศรษฐกิจอังกฤษอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์บางรายชี้ว่า แนวโน้มการปรับลดพนักงานและราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นยังคงมีโอกาสส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของผู้ค้าปลีกในอนาคต

ขณะเดียวกัน ตัวเลขการจ้างงานล่าสุดที่มีการเปิดเผยออกมา แสดงให้เห็นว่าในขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการทำประชามติ แต่ผู้จ้างงานยังไม่รีบตัดสินใจที่จะลดจำนวนพนักงานลง โดยจำนวนคนที่มาของรับสิทธิประโยชน์การว่างงานลดลง 8,600 คนในเดือนกรกฎาคม เหนือความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 9,500 คน

รายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (โอเอ็นเอส) ระบุว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการอ่อนค่าของเงินปอนด์นับตั้งแต่การทำประชามติ ซึ่งทำให้การเดินทางมาท่องเที่ยวในอังกฤษถูกลงสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเพิ่มการใช้จ่ายซื้อสินค้าหรู โดยยอดขายสินค้าประเภทนาฬิกาข้อมือและเครื่องประดับเพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน

โจ ไกรซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ของโอเอ็นเอส กล่าวว่า "ตัวเลขค้าปลีกในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมปีก่อน โดยสภาพอากาศที่ดีขึ้นอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นยอดขายเสื้อผ้าและรองเท้า นอกจากนี้ยังมีหลักฐานชี้ว่าการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของชาวต่างชาติ ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกเฉพาะด้าน อาทิ เครื่องประดับ เป็นกลุ่มที่รายงานผลประกอบการที่ดีในเดือนที่ผ่านมา"

โอเอ็นเอสกล่าวว่า ปริมาณการซื้อขายค้าปลีกเพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทุกธุรกิจมีการเติบโต โดยเฉพาะธุรกิจร้านค้าประเภทนอนฟู้ด

ขณะเดียวกันท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างซูเปอร์มาร์เก็ตและการแข่งขันกันลดราคาสินค้า ส่งผลให้ราคาสินค้าในร้านค้าโดยเฉลี่ยลดลง 2% ในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม มูลค่าการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 3.6% และการใช้จ่ายซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 16.7% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2558

แอนนา ลีช หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจของสมาพันธ์อุตสาหกรรมสหราชอาณาจักร (ซีบีไอ) ซึ่งสนับสนุนการเป็นสมาชิกอียูต่อไป กล่าวว่าแนวโน้มสำหรับผู้ค้าปลีกยังไม่มีความชัดเจน "เมื่อมองไปข้างหน้า เราคาดหวังว่าการใช้จ่ายจะอ่อนแอลง การปรับตัวลดลงของเงินปอนด์ในช่วงที่ผ่านมาจะส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วง 1 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้กำลังการใช้จ่ายของผู้บริโภคภายในประเทศมีลดลง"

อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์อีกส่วนหนึ่งเชื่อว่าธุรกิจค้าปลีกจะไม่ได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากเบร็กซิท เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะได้รับการสนับสนุนจากอัตราเงินเฟ้อต่ำ อัตราว่าดอกเบี้ยต่ำ และอัตราว่างงานต่ำ "ผู้ค้าปลีกจะได้อานิสงส์จากความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และธุรกิจโดยรวมน่าจะสดใสในช่วงครึ่งปีหลัง โดยพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคน่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักระหว่างเวลานี้ไปจนถึงคริสต์มาส" เอียน เกดดีส หัวหน้าฝ่ายค้าปลีกอังกฤษของบริษัทที่ปรึกษา ดีลอยท์ ให้ความเห็น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,185 วันที่ 21 - 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559