กรมการท่องเที่ยวจีนจ่อขึ้น 'บัญชีดำ' นักท่องเที่ยวจีนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวจีนกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดท่องเที่ยวในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่หวังสร้างรายได้มหาศาลจากกำลังซื้อของกลุ่มนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่จากแดนมังกรเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หนังสือพิมพ์ พีเพิลส์ เดลี ของจีน เปิดเผยว่า “ไทยครองอันดับ 1 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในต่างประเทศของชาวจีน โดยในปี ค.ศ. 2015 มีชาวจีนเดินทางมายังประเทศไทย 7.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 70%” และข้อมูลจากสำนักงานการท่องเที่ยวมณฑลส่านซี เปิดเผยว่า ไทยเป็นประเทศเป้าหมายอันดับแรกที่ชาวส่านซีเลือกไปท่องเที่ยว โดยสถิตินักท่องเที่ยวจากมณฑลส่านซีไปไทยช่วงปี 2015 มีจำนวนมากถึง 238,682 คน ซึ่งมีสถิติสูงกว่าปี 2014 ถึง 17.79% และช่วงต้นปี 2016 ก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ล่าสุดได้เกิดกระแสต่อต้านนักท่องเที่ยวชาวจีนในโลกออนไลน์ เนื่องจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวจีน จนรัฐบาลจีนต้องออกมาตรการเพื่อรณรงค์ให้พลเมืองจีนเข้าใจและยึดแนวปฏิบัติในการท่องเที่ยวในต่างประเทศโดยมีพฤติกรรมที่เหมาะสม

ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซีอาน อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อท้องถิ่นของจีนระบุว่า กรมการท่องเที่ยวประเทศจีนได้ออก “มาตรการ (ชั่วคราว) ควบคุมพฤติกรรมอนารยธรรมของนักท่องเที่ยวจีน” มุ่งเน้นการปรับปรุงการบริหารจัดการธุรกิจการท่องเที่ยวรวมไปถึงบุคลากรด้านธุรกิจภาคบริการ โดยจัดทำ “บัญชีรายชื่อนักท่องเที่ยว อนารยธรรม” หรือ บัญชีดำนักท่องเที่ยวจีนขึ้น มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งในและต่างประเทศตลอดจนบริษัทนำเที่ยวสัญชาติจีน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อทรัพย์สิน ร่างกาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อภาพลักษณ์ของประเทศจีน

 9 พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่เสี่ยงถูกขึ้น “บัญชีดำ”

1. รบกวนระบบการทำงานบนเครื่องบิน, รถ, เรือ และรวมถึงระบบการขนส่งสาธารณะทุกชนิด

2. ทำลายสิ่งแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ

3. ละเมิดธรรมเนียมปฏิบัติ และประเพณีของสังคมนั้นๆ

4. ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โบราณสถานต่าง ๆ ที่ไปเยี่ยมชม

5. เล่นพนัน สิ่งยั่วยุกามารมณ์ และกิจกรรมรุนแรง

6. ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบสถานที่ท่องเที่ยว, ป้ายคำเตือน ตลอดจนคุกคามการประกอบการ ความปลอดภัย และทรัพย์สมบัติของผู้อื่น

7. ทำลายการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์

8. ฝ่าฝืนกฎระเบียบการท่องเที่ยวจนให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง

9. พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสังคมนั้นๆ อย่างร้ายแรง (พิจารณาและอนุมัติการขึ้นบัญชีดำโดยกรมการท่องเที่ยวแห่งชาติ)

8 พฤติกรรมของบริษัทนำเที่ยวจีนที่อาจถูกขึ้น “บัญชีดำ”

นอกจากนี้กรมการท่องเที่ยวประเทศจีนยังเฝ้าติดตามพฤติกรรมของบริษัทนำเที่ยวสัญชาติจีนที่ไม่สามารถควบคุมดูแลลูกทัวร์ให้แสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม โดยมีมาตรการที่ชัดเจนคือ บริษัทผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและพนักงานจะถูกขึ้นบัญชีดำ และบริษัทอาจถูกปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 20, 000 หยวน และพนักงานผู้นำเที่ยวอาจถูกปรับเป็นเงินถึง 10,000 หยวน หาก

1. กระทำตัวไม่เหมาะสม ฝ่าฝืนกฎระเบียบข้อกฎหมายการทำงาน และไม่มีจริยธรรม จนส่งผลกระทบต่อสังคมนั้นๆ อย่างรุนแรง

2. ไม่มีการเซ็นสัญญาร่วมกันกับลูกทัวร์

3. ไม่ผ่านมาตรฐาน 3 ข้อ ได้แก่ (1) ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดสำคัญของเมือง (2) ประเทศนั้นๆ ไม่มีโรงแรม และ (3) ไม่มีรถสำหรับเป็นพาหนะรับส่งในการเดินทาง

4. หลอกลวงบังคับให้ลูกทัวร์ซื้อของ รวมถึงให้ข้อมูลเท็จอันเป็นเหตุให้ลูกทัวร์ต้องต้องสูญเสียทรัพย์สิน
5. ทำร้าย ขู่บังคับลูกทัวร์

6. ไม่ให้ความเคารพต่อสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ

7. พูดจาหรือกระทำการลบหลู่ศาสนา ประเพณี

8. โฆษณาชวนเชื่อที่ก่อให้เกิดความคิดและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของลูกทัวร์

บัญชีรายชื่อนักท่องเที่ยวอนารยธรรมและบทลงโทษ

กรมการท่องเที่ยวจีนจะเปิดเผย “บัญชีรายชื่อนักท่องเที่ยวอนารยธรรม” หรือบัญชีดำให้ประชาชนทั่วไปทราบระยะเวลาที่ขึ้นบัญชีดำรวมทั้งบทลงโทษ ดังนี้ (1) นักท่องเที่ยวที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง(คดีอาญา) จะถูกบันทึกข้อมูลเก็บไว้ในบัญชีฯ ตั้งแต่ 3-5 ปี (2) นักท่องเที่ยวที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย(คดีแพ่ง) โดยถูกศาลปกครองหรือศาลยุติธรรมพิพากษาดำเนินคดี จะถูกบันทึกข้อมูลลงในบัญชีฯ ตั้งแต่ 2-4 ปี (3) นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้รับโทษทางกฎหมาย แต่สร้างความเสียหายต่อสังคมอย่างร้ายแรง จะถูกบันทึกข้อมูลลงในบัญชีฯ ตั้งแต่ 1-3 ปี โดยการถูกบันทึกรายชื่ออยู่ในบัญชีดำจะมีผลต่อการพิจารณาอนุมัติการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศครั้งต่อไป และถ้าเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงจะไม่มีสิทธิ์ออกนอกประเทศตามระยะเวลาที่กำหนดในบัญชีดำ

ผู้เชี่ยวชาญสาขากฎหมายของสถาบันภาษาต่างประเทศประจำปักกิ่ง แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า การขึ้นบัญชีดำนักท่องเที่ยวจะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวสูญเสียความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมต่างๆ ทางธนาคาร ทำให้การเข้าออกนอกประเทศเป็นไปได้ยากขึ้น (ชั่วคราว) ซึ่งมาตรการนี้น่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมมีจำนวนลดลง

บทสรุป

กระแสต่อต้าน “นักท่องเที่ยวอนารยธรรม” ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์เท่านั้น แต่ยังได้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วทั่วประเทศจีนตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา มณฑลส่านซีได้รณรงค์ในประเด็นดังกล่าวโดยจัดกิจกรรม “พบเจอนักท่องเที่ยวไม่มีอารยธรรม ถือโอกาสถ่ายรูปทันที” เพื่อให้ประชาชนที่สนใจร่วมกิจกรรมโดยส่งรูปดังกล่าวไปยังสำนักพิมพ์ Xi’an Wenming เพื่อเผยแพร่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและส่งรายงานต่อสำนักงานการท่องเที่ยวส่านซีต่อไป และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจากมณฑลส่านซีตระหนักถึงความเป็นเมืองแห่งอารยธรรม โดยเฉพาะนครซีอานที่เป็นเมืองวัฒนธรรมที่เก่าแก่ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของจีนที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและต่างประเทศสนใจมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังเป็นการปลูกฝังค่านิยม “การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ” ที่จะสามารถยกระดับตลาดทัวร์รวมไปถึงลักษณะนิสัย/แนวทางการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศของชาวจีนให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยและมีคุณค่ามากยิ่งขึ้นในสายตาของชาวโลก

ติดตามข่าวสารข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลู่ทางการค้า-การลงทุน และความเคลื่อนไหวล่าสุดของเศรษฐกิจจีนได้ที่เว็บไซต์ www.thaibizchina.com หรือช่องทางใหม่ www.facebook.com/thaibizchina

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,181 วันที่ 7 - 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559