อาเบะเตรียมทุ่มงบกระตุ้นเศรษฐกิจเล็งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

"อาเบะ" สั่งเดินหน้าลุยจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังพรรครัฐบาลคว้าชัยชนะท่วมท้นในการเลือกตั้งสภาสูงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดทางให้การผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้ง่ายขึ้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แม้ว่านโยบายเศรษฐกิจของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าอาเบะโนมิกส์ จะประสบกับอุปสรรคหลายต่อหลายครั้งตลอดช่วง 3 ปีครั้งที่ผ่านมา แต่พรรคร่วมรัฐบาลยังสามารถคว้าที่นั่งได้ 70 จาก 121 ที่นั่งในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาของญี่ปุ่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ในเวลานี้พรรคร่วมรัฐบาล คือพรรคลิเบอรัล เดโมแครติก หรือแอลดีพี ของนายอาเบะ และพรรคนิวโคเมโตะ ครองเสียงข้างมากทั้งสภาล่างและสภาบนของรัฐสภาญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การผ่านกฎหมายต่างๆ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำได้ง่ายขึ้น

นายอาเบะกล่าวภายหลังการเลือกตั้ง ให้คำมั่นว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของญี่ปุ่น ด้วยมาตรการขนาดใหญ่และครอบคลุมเป็นวงกว้าง ขณะที่นายโนบุเทรุ อิชิฮารา รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่นยืนยันในวันอังคาร (12 ก.ค.) ว่านายอาเบะได้สั่งการให้รวบรวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม และเตรียมยื่นเสนอร่างงบประมาณเสริมสำหรับนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจต่อรัฐสภาในการประชุมสมัยวิสามัญที่จะเริ่มต้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

ทั้งนี้ นายอาเบะและนายอิชิฮาราไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่นั้นจะมีมูลค่าเท่าใด อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างคำกล่าวของแหล่งข่าวภายในพรรครัฐบาลว่า รัฐบาลพร้อมที่จะอัดฉีดงบประมาณกว่า 10 ล้านล้านเยนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

หนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่นายอาเบะกล่าวถึง คือการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง และท่าเรือสำหรับจอดเรือสำราญเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ นอกจากนี้ นายอาเบะยังต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับการส่งออกสินค้าเกษตรจากพื้นที่ในต่างจังหวัด "เราได้ให้คำมั่นสัญญาในการหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเราจะขายสินค้าเกษตรและทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่แต่ละภูมิภาคภาคภูมิใจออกไปยังทั่วโลก" นายอาเบะกล่าว

นักเศรษฐศาสตร์บางรายกล่าวว่า การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อชดเชยการที่ภาคเอกชนลังเลที่จะลงทุนในการสร้างโรงงานและซื้ออุปกรณ์ โดยคำสั่งซื้อเครื่องจักรลดลงอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนพฤษภาคม หลังจากเงินเยนที่แข็งค่าและความต้องการอ่อนแอส่งผลกระทบต่อกำไรและแผนการใช้จ่ายของบริษัท

ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์อีกจำนวนหนึ่งกล่าวว่า เหตุผลหลักที่นโยบายอาเบะโนมิกส์ไม่ให้ผลสำเร็จเท่าที่ควรนั้น มาจากการที่นายอาเบะยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ รวมถึงตลาดแรงงาน หรือลูกศรดอกที่ 3 ของอาเบะโนมิกส์ นอกเหนือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางนโยบายการคลัง และนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)

ชัยชนะในการเลือกตั้งประกอบกับคำกล่าวของนายอาเบะถึงโอกาสในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การทำประชามติของอังกฤษเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน อ่อนตัวลงมาในช่วงต้นสัปดาห์ โดยอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.8% เป็น 103.64 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าที่สุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอคอยการตัดสินใจของบีโอเจในการประชุมช่วงปลายเดือนกรกฎาคมว่าจะมีการออกมาตรการใดๆ เพิ่มเติมหรือไม่

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,174 วันที่ 14 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559