บราซิลยํ้าพร้อมจัดโอลิมปิก ยืนยันปัญหาต่างๆ จะไม่กระทบผู้มาเข้าร่วมการแข่งขัน

รักษาการประธานาธิบดีบราซิลเชื่อมั่น การจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในเดือนสิงหาคมจะประสบความสำเร็จ ท่ามกลางความกังวลต่อปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าบราซิลตั้งแต่เรื่องการเมือง เศรษฐกิจ ไปจนถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพ

ในเวลาที่บราซิลกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ประกอบกับความกังวลจากไวรัสซิก้า ไปจนถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา สร้างความไม่แน่ใจว่าการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 5-21 สิงหาคมนี้ จะเป็นไปได้อย่างราบรื่นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นายมิเชล เทเมอร์ รักษาการประธานาธิบดีบราซิล กล่าวยืนยันว่าบราซิลมีความพร้อมที่จะต้อนรับผู้ที่คาดว่าจะเดินทางมาเข้าร่วมและชมการแข่งขันโอลิมปิกประมาณ 5 แสนคน

"บราซิลพร้อมเปิดรับผู้ที่จะมาเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกทุกคน ซึ่งพวกเขาจะได้รับความสนุกสนานในการชมการแข่งขันของนักกีฬาชั้นนำระดับโลกจากนานาชาติ" นายเทเมอร์กล่าวผ่านแถลงการณ์ และเสริมว่า การจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาของบราซิลในการจัดอีเวนต์ขนาดใหญ่ "เราเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก กีฬาแพนอเมริกา การแข่งขันกีฬากองทัพโลก วันเยาวชนโลก และฟุตบอลคอนเฟเดอเรชันส์ คัพ ทั้งหมดล้วนแต่ประสบความสำเร็จอย่างดี"

ด้านนายลีโอนาร์โด ปิชชิอานี รัฐมนตรีกีฬาของบราซิล กล่าวว่า เวลานี้บัตรชมการแข่งขันถูกจำหน่ายไปแล้ว 70% และยืนยันว่าจะไม่มีผู้ที่เดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ริโอ เดอ จาเนโร ได้รับผลกระทบจากไวรัสซิก้าอย่างที่หลายประเทศมีความกังวล "มีการจัดการทดสอบแล้ว 43 ครั้งกับนักกีฬา 7,000 รายจากหลายประเภทกีฬา และไม่เคยพบเคสของไวรัสซิก้าหรือไข้เลือดออก เราไม่คาดว่าจะมีการแข่งขันกีฬาประเภทใดที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อซิก้าในระหว่างโอลิมปิก"

ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงของบราซิล นำโดยราอูล จุงมานน์ รัฐมนตรีกลาโหม กล่าวถึงแผนการรักษาความปลอดภัยซึ่งจะใช้กำลังทหาร 41,000 นายในระหว่างการแข่งขัน โดยกำลังพล 21,000 นายจะประจำการอยู่ที่ริโอ เดอ จาเนโร และที่เหลือจะประจำอยู่ใน 5 เมืองที่เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล

นอกจากนี้ จะมีการจัดกำลังของเรือรบขนาดใหญ่ 12 ลำ และเรือขนาดเล็กลงอีก 48 ลำ รวมถึงรถหุ้มเกราะ 70 คัน เฮลิคอปเตอร์ 28 ลำ รถยนต์ 1,169 คัน และจักรยานยนต์ 174 คัน เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยในระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกอีกด้วย

ทหารจะลาดตระเวนตามถนนหลักๆ ในกรุงริโอ เดอ จาเนโร ตลอดจนสนามบิน สถานีรถไฟและรถโดยสาร รวมไปถึงรอบๆ บริเวณจัดการแข่งขัน ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ ชายหาดโคป้าคาบานา และอิปาเนมา และพื้นที่อื่นๆ ในตัวเมืองจะอยู่ภายใต้การดูแลของสารวัตรทหาร ส่วนการเข้าไปชมการแข่งขันในสเตเดียมต่างๆ จะกำกับดูแลโดยหน่วยงานความมั่นคงภายใต้กระทรวงยุติธรรม

ก่อนหน้านี้รัฐบาลของรัฐริโอ เดอ จาเนโร ออกมากล่าวเตือนถึงความเสี่ยงเรื่องการรักษาความปลอดภัยในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก หลังจากริโอประสบกับปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง จนส่งผลต่อความสามารถในการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งรวมถึงตำรวจ เป็นเหตุให้รัฐบาลกลางของบราซิลต้องอัดฉีดเงินเข้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติม แม้ว่าสถานะทางการคลังของรัฐบาลกลางเองก็ไม่สู้ดีนักในเวลาที่เศรษฐกิจกำลังถดถอย

การศึกษาล่าสุดจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดประเมินว่า ค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เกินกว่างบประมาณไป 51% อย่างไรก็ตาม ยังเป็นงบประมาณที่น้อยกว่าการจัดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งอื่นๆ อย่างโอลิมปิกที่ลอนดอนที่ใช้งบประมาณไปถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย ใช้งบประมาณไป 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรายงานสรุปว่าการจัดการแข่งขันโอลิมปิกนับเป็นหนึ่งในการลงทุนที่เสี่ยงที่สุด

อย่างไรก็ดี รัฐบาลท้องถิ่นของริโอกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันอยู่ที่เพียง 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำกว่างบประมาณคาดการณ์ 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยื่นเสนอขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันไปประมาณ 35%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,173 วันที่ 10 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559