มุมมองตลาดหุ้น by  Bualuang Securities  

06 ก.ค. 2559 | 03:35 น.
มุมมองตลาด

ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นไปแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 1459.80 จุด แต่ไม่สามารถยืนได้ ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1450.07 จุด ลดลง 0.31% ปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น 5.2 หมื่นล้านบาท ภายหลังจากการฟื้นตัวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนบางส่วนเลือกปรับพอร์ตขายหุ้นทำกำไรระยะสั้น ภายหลังจากตลาดปรับตัวขึ้นเร็ว จากจุดต่ำสุด 1395-1450 จุด หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นแรงในอดีต เช่น ปิโตรเคมี ธนาคาร และอาหารถูกล็อคขายทำกำไร ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญทั่วโลกส่วนใหญ่เริ่มปรับตัวลงภายหลังจากการปรับขึ้นแรงอาจส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรระยะสั้น

ตลาดหุ้นไทยภูมิภาคปรับขึ้นโดยเฉลี่ย 4% ในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ภายหลังจากความชัดเจนเรื่อง Brexit และกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งหมายความว่าในระยะสั้นค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ทั้งนี้การขายทำกำไรค่าเงินดอลล่าร์จะช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในรูปของสกุลเงินประเทศเกิดใหม่ รวมทั้งตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่เช่นกัน โดยตลาดหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดในภูมิภาคอาเซียน จากข้อมูลสถิติ การแข็งค่าของเงินบาทมักมีความสัมพันธ์ในทางตรงกันข้ามกับผลตอบแทนตลาดหุ้นไทย กล่าวโดยสรุปคือการแข็งค่าของค่าเงินตลาดเกิดใหม่เทียบกับดอลล่าร์สหรัฐฯ จะส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลเข้าประเทศเกิดใหม่และราคาสินทรัพย์จะปรับตัวขึ้น

แนวโน้มระยะกลางเรายังคาดว่าตลาดพักตัวและมีลุ้นฟื้นตัวกลับขึ้นไป เนื่องจากกระแสเงินลงทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่โมเมนตัมแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับกลยุทธ์ในการเทรดเมื่อใดก็ตามที่ตลาดหุ้นส่งสัญญาณพักตัวลดความร้อนแรงลง หุ้นขนาดเล็ก-กลางหรือหุ้นที่ยังไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากนักจะปรับตัวได้ดีกว่า

สรุป:ดังนั้นจากเหตุผลดังกล่าวเราคาดว่าดัชนียังอยู่บนทิศทางขาขึ้นการจับจังหวะการลงทุนใช้เส้นแนวรับที่ 1440 จุดเป็นหลักหากดัชนียังยืนเหนือแนวรับที่ให้ไว้ได้ก็ยังคงมองสัญญาณในด้านบวก ส่วนแนวต้านยังคงไว้ที่ 1480 จุด

ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง