เปิดใจผู้ก่อตั้ง ‘นิด้า รูมส์’ใหญ่ที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิกตั้งเป้า 3 ปีก้าวเป็นเชนโรงแรมเวอร์ชวล

09 ก.ค. 2559 | 13:00 น.
หลังจากนิด้ารูมส์ (Nida Rooms) ได้ก้าวขึ้นมาเป็น virtual hotel operator (VHO) หรือผู้ประกอบการโรงแรมเวอร์ชวล (โรงแรมเสมือนจริง) โดยเปิดให้บริการห้องพักสำหรับลูกค้าโดยอาศัยแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซที่ทันสมัย ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับโรงแรมที่เป็นหุ้นส่วนในการขายห้องพักที่ว่างอยู่ แม้เพิ่งเปิดให้บริการมาเพียง 8 เดือน ก็สามารถดึงพาร์ทเนอร์โรงแรมได้ถึง 3,500 แห่งใน 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ ซึ่งโมเดลธุรกิจนี้เป็นอย่างไร และนิด้า รูมส์ มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจอย่างไร อ่านได้จากสัมภาษณ์ นายคเนศวรัน อาวิลิ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารนิด้ารูมส์ (NIDA Rooms)

[caption id="attachment_68736" align="aligncenter" width="500"] aaaroom Nida Rooms[/caption]

โฟกัสพาร์ทเนอร์รร.3 ดาวหรือต่ำกว่า

ซีอีโอนิด้ารูมส์ เล่าถึง แรงบันดาลใจในการก่อตั้ง นิด้ารุมส์ ( NIDA Rooms) ว่ามาจากแนวคิดของเศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ ‘Sharing Economy’ ที่เห็นได้จากความสำเร็จของแอพพลิเคชั่นดัง อย่าง AirBNB, Uber, Tesco Mobile และ Tune Talk บวกกับความเข้าใจและประสบการณ์ในการบริหารงานในธุรกิจสายการบินราคาประหยัดในภูมิภาคนี้ ช่วยผลักดันในตัดสินใจเริ่มธุรกิจ นิด้า รูมส์
รูปแบบการดำเนินธุรกิจของนิด้า รูมส์ คือ การเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์กับโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือต่ำกว่า เพื่อช่วยเพิ่มโอกาส ในการขายห้องว่างให้กับโรงแรมเหล่านี้ พาร์ทเนอร์ทุกรายจะได้รับการประเมินก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าบริการ คุณสมบัติในทุกด้าน พนักงาน การตั้งราคา ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัย อยู่ในมาตรฐานของนิด้า รูมส์ โดยเราจะขายห้องเหล่านั้นภายใต้แบรนด์ของเราผ่านระบบเทคโนโลยีของนิด้า รูมส์ เอง

ขณะเดียวกันยังโฟกัสไปที่ตลาดเกิดใหม่ ซึ่งมีโรงแรมราคาประหยัดอยู่น้อย ด้วยแพลทฟอร์ม ของนิดา รูมส์ จะช่วยให้พาร์ทเนอร์ ทั้งแบรนด์โรงแรมเดียวและเชนโรงแรมขนาดเล็ก สามารถทำการตลาด โรงแรมของตัวเองไปสู่ตลาดโลกได้ โดยผ่านเว็บไซต์และโมบายแอพพลิเคชั่นของเรา ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์พิเศษจากบริการของนิด้า รูมส์ ที่ครบถ้วนด้วยทุกราย ละเอียด ราคาข้อเสนอที่ถูกใจ อยู่เสมอ จนไม่ต้องเป็นกังวลกับการเลือกโรงแรมที่ต้องการ

สิ้นปีนี้ดึงพาร์เนอร์รร.7.5 พันแห่ง

หากถามว่าการดำเนินธุรกิจของ NIDA Rooms มีความแตกต่างจากแบรนด์ OYO Rooms ของประเทศอินเดีย และ Zen Rooms ของประเทศอินโดนีเซีย อย่างไร

ซีอีโอนิด้า รูมส์ เปิดใจว่า " เราแตกต่างจากคู่แข่งในเรื่องของคุณค่าที่มอบให้กับลูกค้าและโรงแรมพาร์ทเนอร์ สำหรับลูกค้า เรามั่นใจว่าจะนำเสนอห้องของโรงแรมในทำเลที่ใช่ ราคาที่โดนใจ และคุณภาพที่ดีที่สุด ส่วนกับโรงแรมพาร์ทเนอร์ ทางนิด้า รูมส์ รับประกันในเรื่องรายได้ การเข้าถึงลูกค้า และการเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเราตั้งเป้าจะมีพาร์ทเนอร์ 7,500 โรงแรมภายในสิ้นปี 2559 และจะก้าวขึ้นเป็นเชนโรงแรม เวอร์ชวลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายใน 3 ปี"

ปัจจุบัน นิด้า รูมส์ มีโรงแรมพาร์ทเนอร์ 3,500 แห่งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ และในอีกไม่ช้า เราจะขยายไปเวียดนามและอเมริกาใต้ โดยเรามีงบลงทุน 4.2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 147 ล้านบาท) เพื่อใช้ขยายธุรกิจและส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาค อาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการขยายเครือข่ายโรงแรม การพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างแบรนด์ การตลาด การสร้างช่องทางจัดจำหน่าย และการพัฒนาด้านบริการลูกค้า

โดยลูกค้าที่ใช้บริการนิด้า รูมส์ จะได้รับการยืนยันการจองห้องพักผ่านเว็บไซต์และโมบาย แอพพลิเคชั่น และเรากำลังเร่งทำงานด้านการตลาด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางการตลาด หรือโปรแกรมการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทุกฝ่าย เพื่อเพิ่มเครือข่ายของเราให้กว้างออกไป เราทำงานร่วมกับ Online Travel Agents (OTAs) หลายราย เพื่อทำให้ลูกค้ารู้จักและ เชื่อมต่อถึงเรามากยิ่งขึ้น

Q3 ปีนี้พร้อมเปิดตัวธุรกิจในไทย

ในส่วนของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของนิด้า รูมส์ เขาย้ำว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญ ซึ่งเราจะมุ่งเป้าไปที่เมืองใหญ่เป็นอันดับแรก และต่อไปคือเมืองที่มีนักท่องเที่ยวอิสระและเอสเอ็มอีจำนวนมาก ทันทีที่สามารถเข้าถึงตลาด ดังกล่าวได้ เราจะขยายไปยังตลาดรองลงมา เมืองที่เป็นจุดเชื่อมต่อด้านการคมนาคมก็เป็นตลาด สำคัญเช่นกัน ในไทยขณะนี้เรามีพาร์ทเนอร์ 1,500 โรงแรมและห้องพักราว 8,000 ห้อง ซึ่งกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับโรงแรมพาร์ทเนอร์ เราให้ความสำคัญกับเรื่องห้องว่าง การสร้างแบรนด์ และการทำการตลาด ผ่านช่องทางของเรา โดยที่พาร์ทเนอร์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ใดๆ ทั้งสิ้น

เป้าหมายในไทย ตั้งเป้าจะมีพาร์ทเนอร์ 2,500 โรงแรมภายในปีนี้ ตอนนี้ยังอยู่ในปีแรกของการทำธุรกิจ ซึ่งอาจจะเร็วไปที่จะพูดถึงยอดลูกค้าที่ใช้บริการ แต่มั่นใจว่าจำนวนลูกค้าจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ทันทีที่แผนการตลาดทุกอย่างเริ่มทำงานในช่วงไตรมาส 3 นี้ และในอนาคตอันใกล้ นิด้า รูมส์ จะทำงานเต็มประสิทธิภาพบน OTAs ทั่วโลกและภูมิภาคนี้ และในฐานะที่เป็นบริษัทด้านไอทีและ อีคอมเมิร์ซเราจะเน้นการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ของเราผ่านสื่อดิจิทัลเป็นอันดับแรก

ส่วนประเด็นคำถามเรื่องการปิดตัวของเว็บดีล อย่าง เอนโซโก ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะกระทบต่อความเชื่อมั่นในธุรกิจของนิด้า รูมส์ หรือไม่นั้น

ต่อเรื่องนี้เขาขยายความว่า ธุรกิจของเราใช่การทำธุรกิจออนไลน์อย่างเต็มตัว นิด้ารูมส์ เป็น เวอร์ชวลโฮเทล โอเปอเรเตอร์ คือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมเสมือนจริง วิสัยทัศน์ของเราคือการก้าวขึ้นเป็นเครือข่ายโรงแรมเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และขณะนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 8 เดือนในการดำเนินธุรกิจ ปัจจุบันมีพันธมิตรโรงแรมในเครือถึง 3,500 แห่งทั่วโลก และจะยังคงขยายธุรกิจออกไปอย่างต่อเนื่องอีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้

ทั้งหมดล้วนเป็นเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของนิด้า รูมส์ ที่เกิดขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,172 วันที่ 7 - 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559