“คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ.” ตุน Backlog Q2/59 เพียบกว่า 300 ล้านบาท

13 มิ.ย. 2559 | 09:52 น.
นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ K ผู้นำธุรกิจออกแบบ และตกแต่งอย่างครบวงจร (One-Stop-Shop Solution) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าผลประกอบการทั้งกำไร และรายได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2559 จะเติบโตขึ้นจากในไตรมาสแรกที่ผ่านมา และจะดีกว่าในช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสที่ 2 ของปี 2559 บริษัทฯมีงานในมือที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และรับรู้รายได้ราว 300-350 ล้านบาทโดยคาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาสนี้ และรับรู้รายได้บางส่วนในไตรมาสถัดไป รวมถึงยังมีงานบางส่วนที่ไม่สามารถรับรู้รายได้ทันในไตรมาสแรกที่จะรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาสนี้เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย โดยงานในมือส่วนใหญ่จะเป็นงานออกแบบ และตกแต่งภายใน หรือ Interior ไม่ว่าจะเป็นช็อปแบรนด์เนม สำนักงาน โรงพยาบาล และร้านอาหาร รวมถึงงานตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางของห้างสรรพสินค้า

ในขณะที่การขยายตลาดใน AEC บริษัทฯคาดว่าผลงานของคิงส์เมน พม่าในปีนี้มีโอกาสสูงที่จะพลิกมาเป็นบวก หรืออย่างน้อยก็จะไม่มีผลประกอบการขาดทุน เนื่องจากในปัจจุบันมีการทยอยรับงานอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมาได้ดำเนินการวางโครงสร้างต่าง ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ส่วนในประเทศกัมพูชาบริษัทฯได้ส่งมอบงานออกแบบ และตกแต่งช็อปแบรนด์เนมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นการรับงานแรกในประเทศกัมพูชา ซึ่งในอนาคตก็มีโอกาสที่จะเข้ารับงานอย่างต่อเนื่อง

“ตอนนี้งานในมือจะเป็นงาน Interior ซะส่วนใหญ่ ซึ่งเราเองก็มีความสามารถในการรับงานที่ค่อนข้างหลากหลายมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อบริษัทฯ เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯมากขึ้น ส่วนงานใน AEC นั้นก็มีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในพม่าที่มีการ Bidding งานอยู่ตลอด และในปีนี้คงจะไม่ขาดทุน และน่าจะเห็นทิศทางที่เป็นบวกมากขึ้นหลังจากที่ตลาดในพม่าเริ่มขยายตัว” นายชยวัฒน์กล่าว

ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทฯ ประจำไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 34.28% เมื่อเทียบกับผลประกอบการไตรมาสก่อนหน้านี้ ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.5 ล้านบาท และมีรายได้รวม 326.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับผลประกอบการไตรมาสก่อนหน้านี้ ที่มีรายได้อยู่ที่ 301.2 ล้านบาท