“ซูเปอร์ซีเชฟ”รุกตลาดไทย ตั้งเป้าโต 20%

06 มิ.ย. 2559 | 09:24 น.
นายอมรพันธุ์ อร่ามวัฒนานนท์ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีแวลู จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าคุณภาพระดับพรีเมี่ยม เปิดเผยว่า  บริษัทฯ ได้เตรียมรุกตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มตัว หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้ทำตลาดส่งออกปลาทูน่ามายาวนานกว่า 30 ปี โดยส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากกว่าสองร้อยประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป รวมทั้งอีกหลายประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกา

ทั้งนี้บริษัทฯมีผลการดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่านมากว่า 23,000 ล้านบาท โดยได้รับผลการตอบรับที่ดีในตลาดทูน่าโลก อันเนื่องมาจากความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ผู้ค้าปลีก และผู้จัดจำหน่ายที่มีอยู่ทั่วโลก ทั้งนี้บริษัทคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเติบโตขึ้นปีละ 5%

นางวิจิตรา อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีแวลู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  จากปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ “ซูเปอร์ซีเชฟ” จากผลิตภัณฑ์ปลาซาดีนและปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ในตลาดประเทศไทย ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก  จึงทำให้บริษัทฯ วางแผนขยายผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าในประเทศไทยเพิ่มเติม

จุดเด่นของปลาทูน่ากระป๋องแบรนด์ “ซูเปอร์ซีเชฟ” คือ เนื้อปลาทูน่ามีคุณภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ในระดับพรีเมี่ยม และที่สำคัญผลิตภัณฑ์ของซูเปอร์ซีเชฟยังได้มาตรฐาน MSC (Marine stewardship council) แบรนด์แรก และแบรนด์เดียวในประเทศไทย ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ให้การรับรองในกลุ่มผู้ทำธุรกิจประมงและผู้ผลิตอาหารทะเล ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพแวดล้อมและความยั่งยืนของพันธุ์สัตว์ทะเล นอกเหนือจากการสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภคในเรื่องการป้องกันการปนเปื้อนและความสะอาดของผลิตภัณฑ์

“ปัจจุบัน ผู้บริโภคมีการคำนึงและเลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่เน้นในเรื่องของการดูแลสุขภาพ และมีไลฟ์สไตล์   ที่ชื่นชอบความสะดวกสบายและรวดเร็ว จึงทำให้บริษัทฯ ออกผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋องใหม่ จำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ทูน่าสเต็กในน้ำเกลือ ทูน่าสเต็กในน้ำแร่ ทูน่าสเต็กในน้ำมันมะกอก ทูน่าสเต็กในน้ำมันถั่วเหลือง และทูน่าแซนวิสในน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งผลิตจากปลาทูน่าครีบเหลือง หรือ Yellow Fin เป็นปลาทูน่าที่คุณภาพในระดับพรีเมี่ยม และมีการเปิดตัวครั้งแรกในงาน THAIFEX 2016“

นายอมรพันธุ์ กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนที่จะตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้น เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคอย่างสูงสุด รวมถึงการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา โดยยังคงเน้นเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ”