รมว.สธ.กำชับรพ.เตรียมแผนรับสภาพอากาศแปรปรวนไม่ให้กระทบบริการผู้ป่วย

17 พ.ค. 2559 | 07:57 น.
วันนี้ (17 พฤษภาคม 2559) ศาสตราจารย์คลินิก  เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ ว่า ผลจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ทำให้ประสบปัญหาทั้งภัยแล้งและพายุฝนในหลายพื้นที่ ในส่วนสถานบริการสาธารณสุขได้รับรายงานแล้ว 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลศูนย์มหาราชนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำที่ใช้ในการจัดบริการผู้ป่วย ในวันนี้ได้มอบหมายให้นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปร่วมแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น การสร้างระบบน้ำประปาผิวดิน บ่อเก็บน้ำ ขุดบ่อบาดาลเพิ่ม เพื่อให้มีน้ำสำรองไว้ให้ในช่วงฤดูร้อน และโรงพยาบาลอุดรธานี ได้รับผลกระทบจากฝนตกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ระบายน้ำไม่ทันน้ำไหลเข้าตัวอาคาร โดยมอบหมายให้นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ด้วย

กรมอุตินิยมวิทยาคาดว่าในระยะสัปดาห์นี้จะมีฝนตกหนักเกือบทุกภาคของประเทศ ได้กำชับให้โรงพยาบาลทุกแห่งเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ประเมินความเสี่ยง และจัดทำแผนสำรองการทำงานในภาวะฉุกเฉิน เพื่อให้สามารถจัดบริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสำรวจและซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างให้แข็งแรง จัดการระบบระบายน้ำ รวมทั้งการขนย้ายยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหาย

ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรงพยาบาลศูนย์มหาราชนครศรีธรรมราชที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ โรงพยาบาลฯได้แก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนไปแล้วโดยประสานกองทัพภาคที่ 4 ส่งทหารช่วยขนน้ำ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพราะต้องการใช้น้ำวันละ 1,366 ลูกบาศก์เมตร แต่บ่อเดิมมีความจุ 1,154 ลูกบาศก์เมตร รวมทั้งปรับระบบบริการที่ไม่เร่งด่วน เช่นเลื่อนนัดการผ่าตัดผู้ป่วยโรคที่ไม่เร่งด่วน จัดรถบริการรับ-ส่งผู้ป่วยโรคไตที่ไม่ฉุกเฉินไปโรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งโรงพยาบาลยังให้เปิดบริการตรวจรักษาที่ตึกผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุฉุกเฉินได้ตามปกติ ส่วนระยะยาวเตรียมสร้างบ่อพักน้ำเพิ่มความจุ 4,000 ลูกบาศก์เมตรเพิ่มจากบ่อเดิม และเจาะบ่อบาดาล  จะประเมินผลความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอีกครั้ง

สำหรับที่โรงพยาบาลอุดรธานี ซึ่งน้ำท่วมเข้าตัวอาคารจากฝนตกหนักเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ เปิดบริการตรวจรักษาได้ตามปกติ เหตุจากการระบายน้ำชั้นดาดฟ้า และระบบระบายน้ำทั้งในและนอกโรงพยาบาลระบายไม่ทัน ทำให้น้ำไหลเข้าตัวอาคาร โดยโรงพยาบาลฯได้เร่งจัดการแก้ไขระบบระบายน้ำแล้ว