บล.โกลเบล็กชี้หุ้นไทยผันผวนให้กรอบดัชนี 1,390  – 1,420 จุด 

17 พ.ค. 2559 | 03:50 น.
[caption id="attachment_53756" align="aligncenter" width="336"] k.วิลาสินี (3) วิลาสินี บุญมาสูงทรง[/caption]

บล.โกลเบล็ก มองตลาดหุ้นไทยผันผวน แม้ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น และตัวเลข GDP ไตรมาส 1 /2559 เพิ่มขึ้น 3.2% โตกว่าคาด ให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,390  – 1,420 จุด แนะเก็งกำไรหุ้นเข้าคำนวณ  MSCI ชู ROBINS-EGCO- DNA-GL-S  เด่น ด้านราคาทองคำมีโอกาสพักตัวช่วงสั้น ๆ ก่อนปรับขึ้นต่อตามสัญญาณบวกด้านเทคนิค โดยให้แนวรับ  1,245 - 1,240 เหรียญต่อทรอยออนซ์ แนวต้าน 1,305 -1,310 เหรียญต่อทรอยออนซ์

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่าแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลเชิงบวกด้านจิตวิทยาต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน  บวกกับสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 1.3% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี  ส่วนสภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2559 เพิ่มขึ้น 3.2% เติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และขยายตัวสูงสุดในรอบ 12 ไตรมาสอีกด้วย

อย่างไรตาม ก็ยังมีปัจจัยที่ยังคงกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ กรณีจากประเทศจีนประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น10.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนชะลอตัวลงจากเดือนมีนาคมที่มีการขยายตัว 10.5% ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่ขยายตัว 6.8%

ด้านบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัดซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือประเมินธุรกิจแบงก์ปีนี้ยังคงมีแนวโน้มการชะลอตัวของสินเชื่อและกำไรตามภาวะเศรษฐกิจ  คาดการณ์ว่าทั้งปีสินเชื่อจะเติบโตแค่ 3-5% ส่งผลให้มีความกังวลเกี่ยวกับยอดสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันเพิ่มในต่างจังหวัดอาจกลายเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)  รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าลง  ล่าสุดอยู่ที่ 35.4 บาท/ดอลลาร์ กดดันต่อ Fund Flow ต่างชาติ

อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตาคือวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ FOMC มีกำหนดเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 26-27 เมษายนที่ผ่านมาจากที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม  และวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีการเปิดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz รอบใหม่ ล่าสุดกลุ่มทรูประกาศได้แจ้งถึงมติบอร์ดสรุปว่าไม่เข้าร่วมประมูลในรอบนี้ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาด  ส่วนกลุ่มแอดวานซ์ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างพิจารณา

นายชัยยศ จิวางกูรผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยว่ามีปัจจัยบวก/ลบคละเคล้ากัน โดยมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 46 ดอลลาร์/บาร์เรล  รวมถึงตัวเลข GDP ไตรมาส  1/2559 เพิ่มขึ้น 3.2% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี  ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว  อย่างไรก็ตาม การที่เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.4 บาท/ดอลลาร์  กดดันต่อ Fund Flowต่างชาติ และภาวะตลาดหุ้นโดยรวม

ดังนั้นคาดว่า SET ในสัปดาห์นี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,390  – 1,420 จุด  โดยแนะนำซื้อเก็งกำไรเป็นรอบ (ลงซื้อ/ขึ้นขาย) แบบ Selective Buy ได้แก่ กลุ่มเหล็ก ราคาเหล็กรีดร้อนเพิ่มขึ้น 56% จากปีก่อน ล่าสุด 570 ดอลลาร์ต่อตัน และหุ้นที่ได้เข้าคำนวณ MSCI Global Standard Index รอบใหม่ แนะนำ ROBINS, EGCO และ MSCI Global Small Cap index  แนะนำ DNA, GL และ S

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก จำกัดเปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลง 15 เหรียญ/ออนซ์ หรือคิดเป็น 1.16% ปิดที่ระดับ 1,272 เหรียญ/ออนซ์  โดยมีปัจจัยกดดันหลักมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นหลังนายอีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก มีมุมมองต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวราว 2.5% ในปีนี้  สอดคล้องกับความเห็นของนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตันที่ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและระบุว่าตลาดการเงินกำลังประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับช่วงจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและมองในแง่ลบมากเกินไปเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ  อย่างไรก็ตามราคาทองปรับลงไม่มากและฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้างจากการที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงวอลท์ดิสนีย์ และเมซีย์ อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด  รวมถึงมุมมองที่เป็นบวกของโกลด์แมน แซคส์  และเจพีมอร์แกน ที่คาดว่าราคาทองจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อในปีนี้

อย่างไรก็ตามราคาทองเริ่มมีแรงกดดันอีกครั้งหลังรายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้วและมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ประกอบกับรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)ที่ปรับตัวขึ้นในเดือนเม.ย. ซึ่งได้สร้างความกังวลว่าอาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายน

ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาทองยังอยู่ในแนวโน้มพักตัวออกข้างโดยมีฐานของแนวแขนรูปแบบ BULLISH  FLAG  รองรับอยู่  ขณะที่ระยะสั้นราคาเริ่มขึ้นมายืนเหนือเส้น 5 วันได้เป็นสัญญาณบวกเสริมแนวพักตัว  บวกกับค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เริ่มปรับขึ้นทำให้ราคาแนวโน้มพักตัวเพื่อปรับตัวขึ้นรอบใหม่ตามรูปแบบ สรุปแนวโน้มทองคำมีโอกาสพักตัวช่วงสั้นๆก่อนปรับขึ้นต่อตามสัญญาณบวกด้านเทคนิค โดยมีแนวรับ  1,245-1,240 เหรียญต่อทรอยออนซ์  และแนวต้าน 1,305-1,310 เหรียญต่อทรอยออนซ์