สธ. เตือนโดนแมงกะพรุนพิษให้รีบล้างด้วยน้ำส้มสายชู ลดการเสียชีวิต

15 พ.ค. 2559 | 11:42 น.
Breaking-News โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เตือนคนโดนแมงกะพรุนพิษ อย่ารีบดึงสายหนวดออกทำให้พิ ษเข้าสู่ร่างกายทำให้เซลล์ผิ วหนังตาย ปวดรุนแรง หากพิษเข้าสู่กระแสเลือดอาจเสี ยชีวิตได้ใน 2-10 นาที ให้ล้างด้วยน้ำส้มสายชูจะระงั บการยิงพิษ ซึ่งจะลดโอกาสการเสียชีวิต ร่วมกับควรป้องกันให้ดีก่อนลงทะเล

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุ ขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีมีผู้ป่วยโดนแมงกะพรุนพิษ ในจังหวัดกระบี่ 2 รายที่ผ่านมาพบว่ามีการช่วยเหลื อที่ถูกวิธี ทำให้ลดความเจ็บปวดและการเสียชี วิตได้ โดยรายแรกเป็นนักท่องเที่ยวต่ างชาติชาวเยอรมันอายุ 58 ปี โดนแมงกะพรุนไฟ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2559 มีอาการปวดรุนแรง หลังการราดน้ำส้มสายชูที่จุดเกิ ดเหตุ แล้วนำตัวมาส่งที่ห้องอุบัติ เหตุฉุกเฉิน แพทย์ได้ฉีดยาระงับปวด ทำให้การอาการดีขึ้น ไม่ต้องนอนพักรักษาตัว

สำหรับรายที่ 2 เป็นเด็กชายไทยอายุ 12 ปี ขณะออกไปช่วยตาตกหมึกเมื่อวันที ่ 24 เม.ย.2559 บริเวณใกล้ทะเลแหวก โดนแมงกะพรุนกล่องที่บริ เวณโคนขาทั้งสองข้าง ทำให้มีอาการปวดแสบปวดร้อน  ญาติได้ราดน้ำส้มสายชูขณะอยู่ ในเรือและยังมีอาการปวดมาก จึงนำส่งตัวรักษาต่อที่ โรงพยาบาลกระบี่ หลังจากแพทย์ให้การฉีดยาระงั บปวดอาการดีขึ้นและได้นอนรั กษาตัว 1 คืน วันรุ่งขึ้นกลับบ้านได้ จากผู้ป่วยทั้ง 2 รายถึงแม้ว่าได้รับพิ ษจากแมงกะพรุนชนิดที่ทำให้เกิ ดอาการรุนแรง แต่ได้รับการช่วยเหลืออย่างถู กต้อง ทำให้ไม่ต้องนอนรักษาตัวนาน และผู้ป่วยรอดชีวิตอย่างปลอดภัย

นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการป้องกันการบาดเจ็ บและเสียชีวิตจากการโดนแมงกะพรุ น ประชาชนจึงควรสังเกตลักษณะให้ เข้าใจ โดยแมงกะพรุนกล่องจะมีลั กษณะโปร่งใส อาจมีสีฟ้าอ่อนหรือสีอื่นๆ โดยเฉพาะบริเวณสายหนวด รูปร่างคล้ายลูกบาศก์ มีหนวดบางๆ 12-15 เส้นในแต่ละมุม มีทั้งหมด 4 มุม หนวดอาจยาวถึง 3 เมตรซึ่งถุงพิษจะอยู่ที่สายหนวด หนึ่งตัวอาจมีถุงพิษถึงล้านถุง ทำให้แมงกะพรุนกล่องจัดเป็นสั ตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ซึ่งพิษของแมงกะพรุนกล่องมีฤทธิ ์ 3 ด้าน คือ 1.ทำให้เซลล์ผิวหนังตาย 2.มีอาการปวดรุนแรง และ3.หากได้รับพิษในปริมาณมาก และพิษเข้าสู่กระแสเลือดจะแล่ นเข้าสู่หัวใจทำให้หัวใจหยุดเต้ นและระบบหายใจล้มเหลว เสียชีวิตได้ใน 2-10 นาที

การสัมผัสสายหนวดแมงกะพรุนกล่ องในครั้งแรกมักมีการยิงพิษเพี ยงร้อยละ 10-20 ของถุงพิษทั้งหมด หากช่วยเหลือผิดวิธี เช่นทำให้เกิดการกระเทือนบริ เวณที่โดนสายหนวดแมงกะพรุน จะทำให้ถุงพิษที่เหลืออีกร้อยละ 80-90 ยิงพิษเข้าสู่ร่างกาย แต่การราดน้ำส้มสายชู มีผลในการระงับการยิงพิษเพิ่ มเติมจากถุงพิษที่ยังไม่ได้ยิง ดังนั้นหากยังไม่ได้ราดน้ำส้ มสายชูห้ามเอาทรายไปขัดถูบริ เวณที่โดนแมงกะพรุน ห้ามดึงสายหนวดออก และห้ามราดด้วยน้ำจืดหรื อประคบน้ำแข็งเพราะจะกระตุ้นให้ เกิดการยิงพิษเพิ่มขึ้น การช่วยเหลือที่ถูกวิธีจึงมี ความสำคัญมากในการลดความรุ นแรงของการได้รับพิษ โดยราดด้วยน้ำส้มสายชูอย่างต่ อเนื่องอย่างน้อย 30 วินาที ก็จะสามารถนำสายหนวดออกจากร่ างกายได้โดยปลอดภัย แต่น้ำส้มสายชูไม่ได้ช่ วยลดความปวด จึงต้องให้ยาลดปวดคู่กับการให้ น้ำส้มสายชู เพื่อลดโอกาสการสัมผัสแมงกะพรุ นพิษ เมื่อต้องลงน้ำทะเลควรสวมเสื้ อผ้ามิดชิด เช่น แขนยาว ขายาวแนบลำตัว

ทั้งนี้ หากพบผู้ที่สงสัยถูกแมงกะพรุ นให้รีบทำการช่วยเหลือโดยทันที หรือโทรศัพท์สายด่วน 1669 เพื่อส่งหน่วยบริการการแพทย์ฉุ กเฉินที่ใกล้ที่สุดเข้ามาช่ วยเหลือ หากประชาชนต้องการความรู้เพิ่ มเติมโทรสอบถามได้ที่สายด่ วนกรมควบคุมโรค 1422