ไทย-เมียนมาจับมือจ้างงาน “รัฐต่อรัฐ” แก้ค้ามนุษย์

02 พ.ค. 2559 | 07:31 น.
Breaking-News นายธีรพล  ขุนเมือง ผู้ ตรวจราชการกระทรวงแรงงานและโฆษก กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าวันนี้ (2 พ.ค. 59) พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมคณะ เดินทางไปประชุมหารืออย่างเป็ นทางการกับ นายเต็ง เส่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจคนเข้าเมืองและประชากร ของเมียนมา ที่เมืองเนปิดอว์  เมียนมา ทั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้ าจากการประชุมครั้งสุดท้าย เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นที่คงค้างอยู่คือ เรื่องMOU การดำเนินความร่วมมือในการจัดส่ งแรงงาน และข้อตกลงในการดำเนินการต่าง ๆ ทั้งนี้ หลังจากเมียนมามีรัฐบาลใหม่ ได้แต่งตั้ง นายเต็งเส่งฯ เป็นรัฐมนตรีว่ าการกระทรวงแรงงานฯ คนใหม่ ทั้งสองฝ่ายจึงได้มาหารือกันอี กครั้ง เพื่อต้องการให้เรียบร้อยก่อนที ่จะมีการประชุมรัฐมนตรีว่ าการกระทรวงแรงงานอาเซียนที่ สปป.ลาว ในกลางเดือนพฤษภาคม 2559 ซึ่งที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่ าการกระทรวงแรงงานไทยได้รั บความร่วมมือและได้มีข้อตกลงด้ านการจัดระบบแรงงานต่างด้าวจาก สปป.ลาว เวียดนาม และกัมพูชาแล้วเป็นอย่างดี การประชุมหารือกับเมียนมา จึงเป็นประเทศสุดท้ายในกลุ่ มประเทศ CLMTV ซึ่งผลการหารือทั้งสองฝ่ายในครั ้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่ างดียิ่ง  ทั้งการติดตามความคืบหน้าในเรื่ องเดิม และประเด็นใหม่ ๆ ที่จะให้ความร่วมมื อและแสดงความรับผิดชอบร่วมกัน โดยเมียนมาได้แสดงความจริ งใจในการแก้ปัญหาแรงงานของตน โดยมีการยุบรวมกระทรวงตรวจคนเข้ าเมืองรวมกับกระทรวงแรงงานเข้ าด้วยกัน เป็นต้น ผลการหารือในครั้งนี้มีประเด็ นสำคัญ ๆ คือ ความคืบหน้าการจะดำเนินการร่ วมกันในการจัดส่งแรงงานตาม MOU เป็นการจัดส่ง แบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งทางเมียนมามีความพร้อม และรัฐบาลได้อนุมัติแล้ว ทั้งนี้ฝ่ายไทยจะได้เสนอขออนุมั ติรัฐบาลเพื่อลงนามร่วมต่อไป

นอกจากนั้น ในด้านข้อตกลงการจ้างแรงงานตาม Agreement จะดำเนินการในรายละเอียด โดยจัดตั้งคณะทำงานทั้งสองฝ่ ายให้แล้วเสร็จภายในมิถุนายน  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปิดจุ ดเข้าออกของแรงงาน เพิ่มขึ้นที่พุน้ำร้อน กาญจนบุรี พร้อมเปิดศูนย์อบรมที่ชายแดนเพื ่อเป็นการปฐมนิเทศก่อนเข้ ามาทำงานและส่งกลับเพื่ อตรวจสอบสิทธิประโยชน์ด้วย โดยเฉพาะเน้นความร่วมมือในการพั ฒนาฝีมือแรงงานและการเข้าสู่ ระบบประกันสังคมของแรงงานที่เข้ าเมืองโดยถูกกฎหมาย รวมทั้ง ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกั นในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เพื่อมิให้มีการหลอกลวงแรงงาน ป้องกันแรงงานบังคับ มิให้นำไปสู่การค้ามนุษย์ และขอความร่วมมือให้เมี ยนมาประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ถู กต้องให้ประชาชนเมียนมาได้ ทราบข่าวสารที่ถูกต้องด้วย

นายธีรพลฯ กล่าวในท้ายที่สุดว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำ เพื่อสร้างความเข้าใจกับพี่น้ องคนไทยอีกครั้งว่า การนำแรงงานต่างด้าวเข้ ามาทำงานในไทย ไม่ใช่  นำเข้ามาแย่งงานคนไทยทำ แต่นำเข้ามาทดแทนในงานที่ คนไทยไม่ทำ ในกิจการที่กำหนดไว้เท่านั้น  ได้แก่ งานกรรมกรและรับใช้ในบ้าน และต้องเป็นไปตามความจำเป็นที่ สถานประกอบการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องการ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพื่อมิให้กิจการต้องหยุดชะงั กซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิ จโดยรวมของประเทศ นอกจากนี้ จำนวนที่นำเข้ามาก็ตามจำนวนที่ สถานประกอบการต้องการเท่านั้น ใครต้องการแรงงานชาติใด เท่าใด เราก็นำเข้าแรงงานต่างด้าวชาติ นั้น ๆ ตามจำนวน มิใช่นำเข้ามาเท่าใดก็ได้ จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องดังกล่ าว