เลือก”กสทช”ชุดใหม่ต้องรู้หลายศาสตร์รับโทรคมนาคมยุคใหม่

24 มิ.ย. 2564 | 12:10 น.

นักวิชาการโทรคมฯ ไม่แปลกใจ”บิ๊กเนม”สายทหาร ตำรวจ นักวิชาการ แห่สมัครสรรหา กสทช.ระบุอยากเห็น กสทช.ชุดใหม่ มีความรู้หลากหลาย รับโลกโทรคมนาคมยุคหลอมรวมเทคโนโลยี

นายสืบศักดิ์ สืบภักดี กรรมการบริหารและเลขาธิการสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สทค.)  กล่าวว่าไม่แปลกใจ ที่เห็นรายชื่อบิ๊กเนม สมัครเข้ามากรรมการ กสทช. ทั้งนายทหาร ระดับนายพล   นักวิชาการ ระดับรองศาสตาจารย์ ข้าราชการ ระดับอธิบดี และปลัดกระทรวง   ผู้สมัครบางรายมีความตั้งใจเข้ามาเป็นคณะกรรมการ กสทช. ยื่นสมัครเข้ามาแล้ว 2-3 รอบ   ซึ่งก็จะเห็นรายชื่อซ้ำกันเกินครึ่ง 

เลือก”กสทช”ชุดใหม่ต้องรู้หลายศาสตร์รับโทรคมนาคมยุคใหม่

เนื่องจากที่ผ่านมามีการแก้ไขเพิ่มเติม  พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 เพื่อเปิดสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กรรมการ กสทช.) เกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัครต้องรับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดี ผู้พิพากษา รองอธิบดีศาลปกครองชั้นต้น หรือรองอธิบดีอัยการ หรือเคยเป็นข้าราชการพลเรือน พนักงานในหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองหัวหน้าส่วนราชการตั้งแต่ระดับกรมขึ้นไป หรือเคยเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองหัวหน้าของหน่วยงานอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคลหรือรัฐวิสาหกิจหรือเทียบเท่า ,เป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือนายตำรวจที่มียศตั้งแต่พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี หรือพลตำรวจตรีขึ้นไป  หรือนักวิชาการต้องดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ขึ้นไป ดังนั้นจะไม่เห็นคนหน้าใหม่  หรือ คนรุ่นใหม่ รวมถึงสตาร์ทอัพ สมัครเข้ามา 

 

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับในเรื่องความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ของผู้สมัครเหล่านี้  ซึ่งแต่ละคนจะเก่งในสายที่ตัวเองถนัด  แต่โลกของโทรคมนาคมคมยุคใหม่ ที่เกิดการหลอมรวมของเทคโนโลยี   ทั้ง 5G  AI  Big Data  เราอยากเห็นต้องการผู้กำกับดูแล ที่มีความรู้ความสามารถหลากหลาย การบริหารโทรคมนาคมยุคใหม่ ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ ในการกำหนดทิศทางและกำกับดูแล  เพราะเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว 

“การกำหนดเกณฑ์การเปิดสมัครตามด้านเช่นนี้  ก็จะไม่ต่างจากอดีตที่การทำงานเป็นแท่งๆ  การกำกับดูแลเอากฎหมายมาบังคับใช้อย่างเดียวไม่ได้ เช่น การจัดการปัญหาโซเชียลมีเดีย ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะกฎหมายตามไม่ทัน  หรือ จะเป็นจะเอาเศรษฐศาสตร์มาใช้ก็ไม่ได้  เพราะจะมองเฉพาะเรื่องความคุ้มค่า”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กรรมการ กสทช.) ตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 16-22 มิถุนายน 2564   มียอดผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 78 คน  โดยกว่าครึ่งเป็นผู้สมัครหน้าเก่าที่เคยสมัครเข้ามาครั้งที่ผ่านมา    โดยในจำนวนผู้สมัคร 78 คนนั้นเป็นนายทหาร และตำรวจ ราว 26 คน และเป็นนักวิชาการราว 10 คน  นอกจากนี้ยังมีข้าราชการ และอดีตข้าราชการ  อัยการ ผู้พิพากษา นักกฎหมาย  รวมถึงอดีตเลขาธิการ และรองเลขาธิการ สำนักงาน กสทช.

โดยผู้สมัครบิ๊กเนมที่สมัครเข้ามายังอยู่ครบ ทั้ง พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ (ด้านกิจการโทรทัศน์) ศาสตราจารย์ ดร. พิรงรอง รามสูต ศาสตราจารย์ สาขานิเทศศาสตร์ ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ด้านกิจการโทรทัศน์) นายประพันธุ์ คูณมี ที่ปรึกษากฎหมาย กกต. (ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค) , 1 .พลอากาศเอกมานัต วงษ์วาทย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ (ด้านกิจการกระจายเสียง) .นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ด้านเศรษฐศาสตร์)

แต่บิ๊กเนมที่น่าจับตามองในครั้งนี้ คือ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ อดีตเลขาธิการ กสทช. ยื่นสมัครเข้ามาด้านกิจการโทรทัศน์  จากเดิมครั้งที่แล้วยื่นสมัครด้านโทรคมนาคม สำหรับผู้สมัครหน้าใหม่บิ๊กเนมที่น่าจับตามองเห็นจะเป็น พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล  อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สมัครเข้ามาด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน  หรือ   รองศาสตราจารย์สุธรรม อยู่ในธรรม กรรมการกำกับกิจการพลังงาน อดีต กสทช. ที่สมัครเข้ามาด้านกฎหมาย

สำหรับขั้นตอนการสรรหาหลังจากนี้ ในเดือน ก.ค.-ส.ค.เข้าสู่การพิจารณาตรวจคุณสมบัติผู้สมัคร โดยทางคณะกรรมการสรรหาจะมีนัดประชุม วันที่ 20-23 ส.ค. 2564 จากนั้นวันที่ 31 ส.ค. -3 ก.ย. 2564 เข้าสู่ขั้นตอนการสัมภาษณ์ผู้สมัคร จากนั้นวันที่ 8 ก.ย. 2564 รับรองผลรายงานการประชุมเพื่อส่งรายชื่อเสนอสมาชิกวุฒิสภาพิจารณาต่อไปสำหรับขั้นตอนลงคะแนนหากมีคนงดออกเสียง เช่น งดออกเสียง 2 คน รับ 3 คน ไม่รับ 2 คน ถือว่าที่รับ 3 คน ไม่ผ่านเพราะเสียงไม่เกินครึ่งหนึ่งของคณะ ( คณะมี 7 คน ต้องรับ 4 คนจึงจะถือว่าผ่านเกินครึ่งหนึ่ง) จากนั้นคาดว่าจะตัวกรรมการ กสทช.ชุดใหม่ จำนวน 7 คนช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.ปีนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดชื่อ “อดีตบิ๊กทหาร-ตำรวจ” ตบเท้าท้าชิงเก้าอี้ “กสทช.”เดือด!  

วุฒิสภาล้มกระบวนการเห็นชอบ “14 ว่าที่กสทช.”แล้ว

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการสมัครและการคัดเลือก “กสทช.”ชุดใหม่