ดาวโจนส์ปิดร่วง 533 จุด ในรอบสัปดาห์นี้ลดลง 3.5%,

18 มิ.ย. 2564 | 23:31 น.

ดาวโจนส์ปิดร่วง 533.37 จุด นักลงทุนวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 3.5%,

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) และร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,290.08 จุด ร่วงลง 533.37 จุด หรือ -1.58%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,166.45 จุด ลดลง
55.41 จุด หรือ -1.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,030.38 จุด ลดลง 130.97 จุด หรือ -0.92%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 3.5%, ดัชนี S&P500 ลดลง 1.9% และดัชนี Nasdaq ติดลบ 0.2% โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 2 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว และการร่วงลงในสัปดาห์นี้ถือเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์ที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563

ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ทรุดตัวลง เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายหุ้นออกมา 

ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ กรรมการเฟดจำนวน 13 จาก 18 รายคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่เคยส่งสัญญาณในเดือนมี.ค.ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 นอกจากนี้ เฟดยังคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2566

นักวิเคราะห์รายหนึ่งให้ความเห็นว่า บรรดานักลงทุนวิตกว่า หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดเพื่อลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต          

ทั้งนี้ ภาวะซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน และมีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น เนื่องจากวันศุกร์นี้ตรงกับวัน quadruple witching ซึ่งเป็นวันครบกำหนดส่งมอบออปชั่นและสัญญาล่วงหน้ารายไตรมาสของหุ้นและดัชนีต่างๆ พร้อมกัน

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดตลาดในแดนลบ โดยกลุ่มพลังงานนำตลาดร่วงลง 2.92%