วันที่ 16 มิถุนายน 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวพรรคก้าวไกลเสนอแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560 พร้อมกับย้ำจุดยืนยุติการสืบทอดอำนาจ โดยย้ำว่าพรรคการเมืองสามารถมีข้อเสนอแนะต่างๆได้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่จะต้องยอมรับในเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯด้วยว่าเป็นอย่างไร ไม่ใช่จะเอาแต่ความคิดเห็นของพรรคตัวเองเท่านั้น
ขณะเดียวกันพรรคก้าวไกลไม่ควรที่จะคิดไปเองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นการสืบทอดอำนาจของนายกฯประยุทธ์อีก โดยขอให้มีการพิจารณาและรับฟังเหตุผลต่างๆจากเพื่อนสมาชิกก่อน
ส่วนที่พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับระบบเลือกตั้งในปี 2560 นั้นตนเองมองว่าพรรคก้าวไกลกลัวว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมี ส.ส.น้อยลง หรือไม่คือไม่มีเลยมากกว่า
นายเสกสกลมองว่าไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญระบบเลือกตั้งจะออกมาเป็นแบบใดก็ตาม พรรคก้าวไกลก็คงจะได้ ส.ส.น้อยลง หรืออาจสูญพันธุ์ได้ เนื่องจากประชาชนคงไม่เลือกเข้ามาอีก เพราะวันๆไม่เคยทำอะไรเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเลย หาแต่ประโยชน์ของตัวเอง แอบอยู่หลังม็อบ 3 นิ้วที่คอยแต่จาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันไม่หยุด นอกจากนี้ยังเป็นพรรคการเมืองที่อยากปฏิรูปสถาบัน แก้รัฐธรรมนูญหมวด1 และ 2 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน และขนาดพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันก็ยังไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ดังนั้นตนเองก็ขอให้พรรคก้าวไกลล้มเลิกความคิดแล้วกลับมาเป็นนักการเมือง เป็นพรรคการเมือง ที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองจะดีกว่า
"ประชาชนคนไทยไม่ได้โง่ ไม่ได้กินหญ้า ที่จะไม่รู้ว่า พรรคการเมืองไหนที่คิดยกเลิกมาตรา112 และมีใครอยู่เบื้องหลังสั่งการ หวังคิดล้มล้างสถาบัน ส่งพวกม็อบสามนิ้วลงถนน แสดงการก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบันอย่างไร้จิตสำนึก จนแกนนำหลายคนถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเข้าคุกไปหลายคน แต่ประชาชนที่รักและปกป้องสถาบันไม่เคยลืมพรรคการเมือง และส.ส.พรรคการเมืองไหนที่เข้าไปร่วมสนับสนุนร่วมชุมนุมด้วยกับม็อบสามนิ้วอย่างแน่นอน ถึงวันเลือกตั้งจะได้รู้ว่า ประชาชนจะลงโทษนักการเมืองพรรคนี้อย่างไร คนหนักแผ่นดินที่คิดทำลายสถาบัน จะได้รับบทเรียนอันเจ็บปวดที่สุดจากประชาขนที่จงรักภักดีอย่างแน่นอน" นายเสกสกล กล่าว