พาณิชย์เผยค้าปลีกออนไลน์ ดันธุรกิจเยอรมันขยายตัวดี

27 เม.ย. 2559 | 05:10 น.
[caption id="attachment_48361" align="aligncenter" width="336"] อธิบดีมาลี1 มาลี โชคล้ำเลิศ[/caption]

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ว่า  สหพันธ์การค้าปลีกแห่งเยอรมนี (HDE) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลผู้ประกอบการค้าปลีกในเยอรมนี มีสมาชิกกว่า 400,000 รายทั้งในรูปองค์กร บริษัท และผู้ประกอบการธุรกิจส่วนตัวรายงานว่า ภาคการค้าปลีกในเยอรมนีกำลังเติบโตและมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นในอนาคต  โดยจากการสำรวจผู้ประกอบการ 44 % เชื่อมั่นว่าธุรกิจจะขยายตัวดีถึงดีมากในปี 2559 นี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา  ในขณะที่ผู้ประกอบการเพียง 24 % ให้ความเห็นกังวลว่ายอดขายอาจจะลดลง

ทั้งนี้จากการสำรวจยังพบว่า อุตสาหกรรมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีในปีนี้ คือ การค้าปลีกในสาขาอุตสาหกรรมอาหารทั้งในรูปแบบร้านค้าปลีกและออนไลน์ ในขณะที่อุตสาหกรรมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มต้องเผชิญกับภาวะซบเซา สำหรับภาพรวมแล้วสหพันธ์ฯยังคงเชื่อมั่นว่า ภาคการค้าปลีกภายในประเทศจะขยายตัวเพิ่มขึ้นรวมมูลค่ากว่า 481.8 พันล้านยูโร หรือ เพิ่มขึ้นที่ระดับ 2% โดยเฉพาะช่องทางการค้าออนไลน์ที่จะขยายตัวสูงถึง 11 % รวมมูลค่าทั้งสิ้น 46.3 พันล้านยูโร

สำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะทำการค้ากับยุโรป โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าในเยอรมนีผ่านช่องทางออนไลน์จะต้องคำนึงถึงเงื่อนไขที่อาจเป็นปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจได้ ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาและปฏิบัติตามกฎระเบียบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของตนอย่างเคร่งครัด จะเห็นได้ว่า ผู้นำเข้ายังคงมีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อ/ผู้บริโภคชาวเยอรมันและผู้ผลิตไทยที่จำหน่ายสินค้าผ่านช่องการออนไลน์ในเยอรมนี

“ปัจจุบันธุรกิจการค้าผ่านช่องทางออนไลน์กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำนักงานพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งสหภาพยุโรปรายงานว่า ในปี 2557 มูลค่ารวมการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทั่วโลกเท่ากับ 1,938 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 24 % ประมาณการว่าในปี 2558 มูลค่าการค้าจะพุ่งขึ้นอยู่ที่ 2,251 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยยุโรปเป็นตลาดธุรกิจการค้าออนไลน์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยมูลค่าตลาด 562 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เยอรมนีอยู่ในอันดับ 5 ของประเทศที่มียอดจำหน่ายสินค้าออนไลน์สูงสุดในโลก รองจากจีน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น” นางมาลี กล่าว

จากอุปสรรคทางด้านการนำเข้าสินค้าดังกล่าวทั้งในเยอรมนีและประเทศต่างๆ ทั่วโลก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เล็งเห็นข้อจำกัดและอุปสรรคในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงได้จัดทำโครงการตลาดกลางซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ thaitrade.com ขึ้น ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อจากทั่วโลกสามารถติดต่อซื้อขายกับผู้ส่งออกไทยได้อย่างง่ายดาย ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและผลักดันผู้ผลิตสินค้าในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กให้มีโอกาสนำสินค้าและบริการของตนเปิดสู่ตลาดโลก ยกระดับมาตรฐานความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตสินค้า ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อสินค้า ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วม thaitrade.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในเยอรมนีขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลสำรวจของสถาบันวิจัยหลายแห่งชี้ให้เห็นว่า แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคชาวเยอรมันได้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากอิทธิพลของการใช้อินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะการใช้บริการด้านข้อมูลบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ระบบอินเตอร์เน็ตที่ได้รับการพัฒนาให้มีความเร็วสูง ผนวกกับช่องทางการตลาดใหม่ ๆ ทั้งหลายที่ระดมเข้ามานั้น ล้วนเป็นแรงผลักดัน   ซึ่งทำให้ธุรกิจนี้เติบโตขึ้นไปอีก