กลิ่น ‘ยุบสภา’ โชย

11 มิ.ย. 2564 | 23:05 น.

กลิ่น ‘ยุบสภา’ โชย ; รายงานหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,687 หน้า 12 วันที่ 13 - 16 มิถุนายน 2564

“ยํ้าว่าใน 1 ปีนี้ เราต้องมีผลสำเร็จให้สามารถจับต้องเป็นรูปธรรมได้ ว่าเราแก้ปัญหาอะไรไปแล้ว บ้างใน 1 ปีนี้ และ 1 ปีข้างหน้า จะทำแผนงานอะไรล่วงหน้า เตรียมแผนเอาไว้”

คำปรารภของ บิ๊กตู่-พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ที่สั่งการให้ “คณะรัฐมนตรี” เร่งทำผลงานในช่วง 1 ปี ที่เหลือของรัฐบาล 

คำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 8 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา ภายหลังการประชุม ครม. เสมือนเป็นการส่งสัญญาณ “นับถอยหลังรัฐบาล” เพื่อนำไปสู้การเลือกตั้งใหม่ 

แต่ “รัฐบาลบิ๊กตู่” จะอยู่ไปจนครบเทอมวาระ 4 ปี หรือไม่ ยังไม่มีใคร “การันตี” ได้  

ทำให้บรรดา “นักการเมือง”  ต่างคาดหมายกันถึงการ “ยุบสภา”  เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการลงสนามสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะหากไม่เตรียมตัว เตรียมกระสุน ให้พร้อม ออกตัวช้า มีสิทธิ์เพลี่ยงพลํ้าให้กับคู่แข่งได้

เย็นวันที่  8 มิ.ย. 64  ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้รัฐมนตรีเร่งทำงานภายใน 1 ปี ซึ่งตรงกับกระแสข่าว “ยุบสภา” เพื่อเลือกตั้งใหม่ว่า คนที่มีอำนาจยุบสภา คือนายกฯ ซึ่งยังไม่มีการส่งสัญญาณใด ยังคงทำงานให้ดีที่สุด และได้มากที่สุด

“หากทำงานสุดความสามารถแล้วมีเจตนารมณ์ที่ดี และมีความตั้งใจก็ไม่ต้องกลัวเหตุการณ์ใดทั้งสิ้น เพราะคนที่อยู่ในพรรคการเมือง และทำการเมือง ไม่เคยมีใครไม่เคยเจอเหตุการณ์ยุบสภา”

ส่วนการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมทุกวัน และในฐานะหัวหน้าพรรคก็ถาม ส.ส.ทุกวันว่าได้ลงพื้นที่บ้างหรือไม่ แทนการทักทายว่า “สวัสดี” ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และก็ยังจะถามต่อไป

 

เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้า กล่าวถึงกระแสการยุบสภาว่า การยุบสภาเป็นอำนาจ ของนายกฯ ตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปตอบได้ว่าจะมีหรือไม่ หรือถ้าจะมีจะมีเมื่อไหร่ 

“แต่สำหรับพรรคการเมือง พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อม และได้มีการเตรียมการมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ในแง่ของการเตรียมการรับสมัคร ผู้สมัครส.ส.คืบหน้าไปกว่า 90% ทั้งในกรุงเทพมหานคร ภาคใต้ และ ทุกภาค ซึ่งจะมีการประกาศว่าบุคคลที่จะเป็นผู้สมัครของพรรคว่าเป็นใครบ้างตามระดับ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ 

 

กลิ่น ‘ยุบสภา’ โชย

 

เหตุที่มีการคาดหมายกันถึงการ “ยุบสภา” จะเกิดขึ้น เพราะมองเห็นความขัดแย้งในรัฐบาลที่เกิดขึ้นในรัฐบาล โดยเฉพาะระหว่าง “บิ๊กตู่- พล.อ.ประยุทธ์” กับ พรรคภูมิใจไทย  

อันเนื่องมาจาก “บิ๊กตู่” ไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เกิดการปล่อยให้ ส.ส.ลูกพรรคภูมิใจไทย ไล่ทิ่มแทงนายกฯ ที่เข้าไปยึดอำนาจการบริหารงานของกระทรวงสาธารณสุข มาอยู่ในมือแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และปัญหา “วัคซีนโควิด” ที่รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าจัดหามาได้ล่าช้า และไม่เพียงพอฉีดให้ประชาชน แถมยังเกิดความสับสนขึ้น จนประชาชนบ่นกันทั้งบ้านทั้งเมือง

 

นอกจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่าง พรรคภูมิใจไทย กับ 1 ใน 3 ป. คือ “ป.ป๊อก-พล.อ.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย ดูไม่ค่อย “กินเส้น” กันเท่าไหร่นัก ในเรื่อง “โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว” ส่วนต่อขยายช่วง แบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่มีปัญหาปีนเกลียวกันกับ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม และ พลพรรคภูมิไทย ที่ออกมาคัดค้านการต่อสัมปทานการเดินรถที่จะหมดสัญญาลง เพื่อแลกกับหนี้ค่าจ้างเดินรถที่ ทาง กทม.ค้างชำระให้กับเอกชนอยู่ราว 8,600 ล้านบาท 

ล่าสุด “ป.ป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาพูดถึงเรื่องการยุบสภาว่า “เป็นกาลข้างหน้าผมคนเดียวตอบไม่ได้ ต้องคิดกันหลายๆ พรรค หลายๆ คน ว่ามีเหมาะสมขนาดไหน สถานการณ์เป็นยังไง”

เพราะความไม่มั่นใจว่า “รัฐบาล บิ๊กตู่” จะไปต่อได้อีกนานแค่ไหน แต่ “นักการเมือง” ที่เป็น “นกรู้” ต่างขยับเขยื้อนเตรียมเนื้อเตรียมตัวจัดทัพรับเลือกตั้งกันแล้ว