สหรัฐฯพบการตายเวลาใกล้เคียงฉีดวัคซีน 5,165 คน "หมอเฉลิมชัย" เผยพบเด็ก 12-17 มีปัญหาลิ่มเลือด

09 มิ.ย. 2564 | 17:05 น.

หมอเฉลิมชัยเปิดรายงานอาการไม่พึงประสงค์ ระบุสหรัฐอเมริกาพบการเสียชีวิตเวลาใกล้เคียงการฉีดวัคซีน 5,165 คน จากทั้งหมด 292 ล้านเข็ม เผยพบเด็ก 12-17 มีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและลิ่มเลือด

รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
    ต้องติดตามกันต่อไป สหรัฐฯรายงานอาการไม่พึงประสงค์ สำหรับการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่สุด 292 ล้านเข็มโดยพบการเสียชีวิตในห้วงเวลาใกล้เคียงกับการฉีดวัคซีน 5,165 คน เช่นเดียวกับวัคซีนอื่นๆคือ เมื่อฉีดไปแล้ว จะต้องมีการติดตามผลว่า มีอาการไม่พึงประสงค์ หรือการแพ้มากน้อยเพียงใด เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวิจัยพัฒนาวัคซีนต่อไป หลายครั้งอาจเกิดความมั่นใจมากขึ้น ใช้วัคซีนได้กว้างขวางมากขึ้น หลายครั้ง ทำให้บริษัทวัคซีนเข้าสู่ภาวะลำบาก เพราะมีผลข้างเคียงที่เกิดจากวัคซีนโดยตรง เมื่อพิสูจน์ได้ อาจถึงขั้นต้องยกเลิกวัคซีนของบริษัทนั้นในอดีต ก็มีมาแล้ว
    วัคซีนโควิด-19 ก็เช่นกัน ยิ่งมีการระดมฉีดกันนับล้านเข็ม ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (EUA) ก็ยิ่งจำเป็นจะต้องติดตามอาการไม่พึงประสงค์ หรือการแพ้ให้ใกล้ชิดมากขึ้น สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีระบบการติดตามที่ดีมากประเทศหนึ่งในโลก จากการเร่งฉีดวัคซีนโควิด ในช่วงวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ถึง 28 พฤษภาคม 2564  มีผู้รับวัคซีนไปทั้งสิ้น 292.1 ล้านเข็ม
    Pfizer 158 ล้านเข็ม คิดเป็น 54%
    Moderna 123 ล้านเข็ม คิดเป็น 42%
    Johnson & Johnson 11 ล้านเข็ม คิดเป็น 4%

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ
    โดยมีสถิติตัวเลขที่น่าสนใจดังนี้
    พบผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น 294,801 คน คิดเป็น 1000 คนต่อ 1 ล้านเข็ม
    มีผู้เสียชีวิต 5,165 คน คิดเป็น 17.81 คนต่อ 1 ล้านเข็ม
    และมีผู้แพ้แบบรุนแรงหรือที่เรียกว่าแพ้แบบช็อค (Anaphylaxis ) 83,684 คน คิดเป็น 286 คนต่อ 1 ล้านเข็มการฉีด
    และพบลิ่มเลือด 5,159 คนคิดเป็น 17.67 คนต่อ 1 ล้านเข็มการฉีด
    โดยพบสัดส่วนของผู้ที่มีผลข้างเคียงทั้งเรื่องการเป็นผลข้างเคียงธรรมดา  การแพ้แบบรุนแรงแบบช็อค และการเสียชีวิต ในสัดส่วนของ Pfizer กับ Moderna มากกว่าของ Johnson เพราะจำนวนฉีดมากกว่านั่นเอง
    ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ในกลุ่มอายุ 12-17 ปี มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และมีปัญหาลิ่มเลือดด้วยเช่นกัน
    แต่ทั้งนี้การรายงานดังกล่าว เป็นการเก็บตัวเลขทางวิชาการทั้งหมด ของผู้ที่มีผลข้างเคียง หรือผู้ที่เสียชีวิตหลังจากที่ได้รับวัคซีน โดยยังไม่จำเป็นว่า จะต้องเกิดจากวัคซีนโดยตรง แต่เก็บข้อมูลทั้งหมดขึ้นมาก่อน และจะทำการตรวจสอบ ประเมินในรายละเอียดอย่างเต็มที่ต่อไป ซึ่งคาดว่า จะมีจำนวนผู้ที่เกี่ยวข้อง ว่าเกิดจากวัคซีนโดยตรง น้อยกว่าที่รายงานเป็นจำนวนมากทีเดียว ตัวเลขดังกล่าวจึงต้องทำความเข้าใจว่า เป็นตัวเลขที่เกิดขึ้นโดยที่เป็นเหตุพ้องในช่วงเวลาเดียวกันด้วย ส่วนเกิดโดยตรงจากวัคซีนจำนวนเท่าใดต้องรอรายงานผลต่อไป
    ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ต่อความรู้สาธารณะของประชาชนคนไทย เมื่อเราเริ่มระดมฉีดวัคซีนวันละหลาย แสนเข็ม หรือเดือนละ 15 ล้านเข็มในตลอดเจ็ดเดือนข้างหน้า ย่อมจะมีการรายงาน ผู้เสียชีวิต ผู้แพ้แบบรุนแรง ในห้วงเวลาใกล้เคียงกับการฉีดวัคซีน โดยที่อาจจะไม่ได้เกิดจากวัคซีนโดยตรง ก็จะทำให้สาธารณะของไทย เกิดความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้น โดยใช้ตัวเลขจากสหรัฐอเมริกา ที่จะตามออกมา เพื่อประกอบการพิจารณาไตร่ตรองต่อไป
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมตัวเลขการฉีดวัคซีนในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 8 มิ.ย. 64 จากศูนย์ข้อมูล Covid-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีการฉีดสะสมแล้วจำนวน 5,107,069 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 3,672,372 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 1,434,697 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :