"อิสราเอล" ใกล้เป็นไทจากโควิด จ่อยกเลิกสวมหน้ากากอนามัยในตัวอาคาร 15 มิ.ย.นี้ หลังฉีดวัคซีนไปแล้วเกินครึ่งประเทศ

08 มิ.ย. 2564 | 07:45 น.

“อิสราเอล” ปูพรมฉีดวัคซีนไล่ตั้งแต่กลุ่มเสี่ยงและผู้สูงวัย จนถึงขณะนี้มาถึงกลุ่มวัยรุ่น 12-15 ปีแล้ว พร้อมเตรียมยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคาร ตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.นี้ เป็นต้นไป

นายยูลี เอลเดนสไตน์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลประกาศวันนี้ (7 มิ.ย.)ว่า อิสราเอล จะ ยกเลิกข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคาร ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. เป็นต้นไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยกเลิกข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้งเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมาหลังจาก สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย 

ทั้งนี้ เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศอิสราเอลเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้น นายเอลเดนสไตน์ระบุว่า ข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคารก็จะถูกยกเลิกเช่นกัน หากจำนวนผู้ป่วยในอนาคตไม่เพิ่มสูงเกินคาดการณ์

"อิสราเอล" ใกล้เป็นไทจากโควิด จ่อยกเลิกสวมหน้ากากอนามัยในตัวอาคาร 15 มิ.ย.นี้ หลังฉีดวัคซีนไปแล้วเกินครึ่งประเทศ

คำสั่งดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 “ขั้นสุดท้าย” ที่ยังคงมีผลบังคับใช้ในอิสราเอล หลังจากมีการยกเลิกมาตรการขนานใหญ่ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา อาทิ การจำกัดการรวมกลุ่ม การเว้นระยะห่างทางสังคม และแนวทางสุขอนามัย

อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยังไม่ยกเลิกมาตรการเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศส่วนใหญ่ เช่น คำสั่งห้ามเดินทางเยือน 9 ประเทศ ข้อกำหนดการกักตัวของผู้โดยสารจากกลุ่มประเทศดังกล่าว และข้อกำหนดการตรวจโรคโควิด-19 สำหรับผู้โดยสารขาเข้าทุกคน

ในส่วนของโครงการฉีดวัคซีนนั้น อิสราเอลได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เริ่มการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประชาชนได้เร็ว โดยเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2563 เริ่มจากกลุ่มเสี่ยง กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง กลุ่มบุคลากรอาชีพหน้าด่าน (เช่นแพทย์ พยาบาล อาสาสมัครสาธารณสุข ฯลฯ) และผู้สูงวัยที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จากนั้นก็ค่อยปรับลดช่วงอายุผู้ที่มีคุณสมบัติฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มคนอายุน้อยลง ทำให้กลุ่มวัยรุ่นอายุ 16 ปีขึ้นไปเข้าเกณฑ์ฉีดวัคซีนด้วย และปัจจุบัน อิสราเอลได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-15 ปีแล้วตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา  

ชาวอิสราเอลได้รับวัคซีนแล้วเกือบ 60%

จนถึงขณะนี้ อิสราเอลมีประชาชนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทค แล้วเกือบ 5.46 ล้านคน หรือคิดเป็น 58.5% ของประชากรทั้งหมดทั่วประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง