ลุ้น 7 มิ.ย. วัคซีนโควิดมาตามนัดหรือไม่ "หมอนิธิพัฒน์" ห่วงการเมืองก่อปัญหา

03 มิ.ย. 2564 | 22:50 น.

หมอนิธิพัฒน์ลุ้นวันที่ 7 มิถุนายน 64 วัคซีนโควิด-19 มาตามนัดได้ฉีดหรือไม่ ห่วงการเมืองก่อปัญหา

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยระบุว่า
    ในวันหยุดพิเศษที่เริ่มปีนี้เป็นปีที่สอง ถือโอกาสไปเยี่ยมดูงานหลายโรงพยาบาลต่อเนื่องกัน เริ่มจากการทำหน้าที่อาจารย์อำนวยการหอผู้ป่วยชายโควิดของศิริราชที่เพิ่งเปิดใหม่ เรามีผู้ป่วยอยู่แล้ว 11 คน ส่วนใหญ่ยังไม่มีอาการรุนแรงจนต้องใช้ไฮโฟลว์ และจะเริ่มรับส่งต่อผู้ป่วยจากรพ.อื่นที่ต้องใช้ไฮโฟลว์มาเพิ่มอีก 1 คน เราเริ่มมีผู้ป่วยที่ไม่ได้เจ็บป่วยจากโควิด-19 แต่เจ็บป่วยด้วยปัญหาอื่นๆ ทั้งทางอายุรกรรมหรือศัลยกรรม แต่ตรวจพบเชื้อโคโรนา-2019 แบบไม่มีอาการ ซึ่งหลังจากนี้จะมีผู้ป่วยประเภทนี้มากขึ้นไปอีกระยะหนึ่งถ้าวิกฤตระลอกสามเริ่มควบคุมได้
    เสร็จแล้วโผล่ไปทักทายแพทย์ที่ดูแลหอผู้ป่วยหญิงโควิดของศิริราชที่เพิ่งเปิดใหม่เช่นกัน โดยฝั่งหญิงมีผู้ป่วยน้อยกว่าคือมีเพียง 5 คน อาการก็ไม่รุนแรงเช่นกัน ระยะนี้สัดส่วนผู้ป่วยโควิดเพศชายต่อเพศหญิงจะกลับไปเหมือนสองระลอกแรกคืออยู่ที่ราว 55-60%:40-45%
    เสร็จแล้วโฉบไปเยี่ยมลูกศิษย์จากต่างจังหวัดที่ถูกเกณฑ์มาปฏิบัติงานที่รพ.บุษราคัม ที่นี่รับดูแลผู้ป่วยทั้งไทยและต่างชาติ ราว 85% เป็นผู้ป่วยอาการน้อยหรือไม่มีอาการ (สีเขียว) ที่เหลือจะเป็นผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการหรือมีปัจจัยเสี่ยง (สีเหลืองขึ้นไป) โดยต่างจากโรงพยาบาลสนามอื่นตรงที่มีขีดความสามารถดูแลผู้ป่วยเทียบเท่าเตียงระดับ 2 ในโรงพยาบาลหลักคือสามารถใช้ไฮโฟลว์ต่อเนื่องได้ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านกายภาพของสถานที่ และระบบการให้การรักษาทางการแพทย์และการพยาบาลอื่นในผู้ป่วยโควิดที่ซับซ้อนทำได้ไม่เต็มที่ จึงจำเป็นต้องมีโรงพยาบาลหลักภายนอกเป็นหลังพิงเพื่อการส่งต่อ โดยในภาพรวมก็ยังช่วยลดภาระเตียงในโรงพยาบาลหลักในเขตกรุงเทพและปริมณฑลได้ระดับหนึ่ง หลังจากให้คำปรึกษาปัญหาการดูแลผู้ป่วยแล้ว จึงรับผู้ป่วยชายมาดูแลต่อให้ที่ศิริราช 3 คน 
    จากนั้นเข้าไปเยี่ยมทีมแพทย์และพยาบาลที่รพ.พลังแผ่นดิน วันนี้มีแพทย์และพยาบาลอาสามาช่วยงานกันคึกคัก กิจการยังไปได้ดีอยู่ เพราะแม้ผู้ป่วยรุนแรง/วิกฤตในรพ.หลักในเขตกทม.จะเริ่มลดลง แต่ที่นี่ก็ยังช่วยผ่องถ่ายผู้ป่วยประเภทนี้ที่ล้นเกินศักยภาพของโรงพยาบาลอื่นเพื่อให้บุคลากรในที่นั้นไม่ล้าเกินไป เสร็จแล้วมีโทรศัพท์ขอส่งต่อผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่งใส่ท่อช่วยหายใจ ก็ยินดีรับมาแบบไม่ลังเล ต่อมามีอีกรายที่ยังไม่ใส่เครื่องช่วยหายใจแต่ใช้ไฮโฟลว์ขนาดสูงมา 7 วันไม่สามารถเอาออกได้ จึงได้แนะนำด้านการรักษาต่อไปแต่ไม่ได้ช่วยรับย้ายมาให้เพราะยังไม่มีอะไรช่วยเปลี่ยนแผนการรักษา
    ปิดท้ายที่รพ.ราชทัณฑ์ สถานการณ์ค่อยๆ บรรเทาลงมาสามสี่วันแล้ว ยอดผู้ป่วยใหม่อาการรุนแรงจนต้องใช้ไฮโฟลว์ไม่มีมาสองวัน ส่วนรายที่เหลืออยู่ก็ได้ร่วมวางแผนการรักษากับทีมแพทย์ที่ยกกันมาฟูลทีม6-8 คนแม้จะเป็นวันหยุดของพวกเขาก็ตาม ตอนนี้การเตรียมพร้อมด้านสถานที่และเครื่องไม้เครื่องมือเสร็จเกือบสมบูรณ์แล้ว ถ้าสถานการณ์ในทัณฑสถานเขตกทม.เป็นเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ทีมโควิดราชทัณฑ์น่าจะยืนบนขาตัวเองได้อย่างมั่นคงและน่าชื่นใจ

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล
    วันจันทร์หน้าช่วยกันจับตาดูว่าที่นัดไว้มาแน่และผลจะออกมาแบบไหน โดยยังไม่ต้องไปสนใจว่ามันมาได้อย่างไร แต่ถ้าการบริหารจัดการให้ได้มาตามนัดไปทำร้ายจิตใจผู้ใดเพราะเขาอาจได้วัคซีนช้าลงไปหน่อย ก็ต้องขออโหสิกรรมให้ด้วย และให้ไปไล่เบี้ยกับคนที่ยักย้ายถ่ายเทโควต้าวัคซีน(การเมือง)ที่ก่อปัญหา
    #ร่วมกันเผด็จศึกศึกโควิดระลอกสาม 
    #รีบไปเข้าแถวฉีดวัคซีนไม่มีทางเลือกที่จะมาตามนัดแล้ว
    ทั้้งนี้ ประเด็นทิ้งท้ายจาก "หมอนิธิพัฒน์" นั้น มาจากการที่วันที่ 7 มิถุนายน 64 จะเป็นวันเริ่มต้นการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้นพ.โสภณ เอี่ยมสิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ระบุว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับวัคซีนเป็นล็อตๆในจำนวนจำกัด แต่ครั้งนี้จะมีวัคซีนทั้งในส่วนของแอสตร้าเซเนก้า (AstraZeneca) และซิโนแวค (Sinovac) โดนพื้นที่ในการฉีดเขตพื้นที่กรุงเทพจะกระจายไปที่โรงพยาบาลต่างๆและศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลโดยจุดใหญ่ยังคงเป็นสถานีกลางบางซื่อ  ในส่วนของต่างจังหวัดจะมีโรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงพยาบาลประจำอำเภอ รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลรัฐในสังกัดอื่นๆที่ร่วมเป็นจุดฉีดวัคซีน
    สำหรับการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ในวันที่ 7 มิถุนายนเป็นการฉีดวัคซีนในกลุ่มที่ 2 ต่อจากกลุ่มแรกที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า โดยกลุ่มที่ 2 ก็คือกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปกลุ่มที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และคนที่ขึ้นทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม หรือช่องทางอื่นเช่นร้านสะดวกซื้อ แอปเป๋าตังค์  คาดว่าจะมีการฉีดวัคซีนหลายแสนคนทั่วประเทศในวันดังกล่าวขณะเดียวกันก็ต้องมีการติดตามผลข้างเคียงเพื่อให้เกิดการดูแลคนที่เกิดผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :