“มงคลกิตติ์”แฉกลางสภามีค่า“หัวคิวฉีดวัคซีนโควิด"โดสละ 500-1,000 บาท

01 มิ.ย. 2564 | 08:17 น.

“มงคลกิตติ์”แฉกลางสภามี “ค่าหัวคิวฉีดวัคซีนโควิด” โดสละ 500-1,000 บาทต่อหัว จี้รัฐบาลปรับลดงบซื้ออาวุธกว่า 4 หมื่นล้านบาท นำเงินมาซื้อวัคซีนโควิด-19 

วันนี้(1 มิ.ย.3564) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้อภิปรายขอให้รัฐบาลปรับลดงบประมาณ ของกระทรวงกลาโหม ใน 3 เหล่าทัพ คือ กองทัพบก, กองทัพอากาศ และกองทัพเรือ ในส่วนของการจัดซื้ออาวุธใหม่, ตั้งงบผูกพัน กว่า 30,000 - 40,000 ล้านบาท ที่จัดสรรไว้ในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 

แบ่งเป็น กองทัพบก ควรชะลองบประมาณด้านยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ มูลค่ากว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ที่เตรียมไว้เพื่อเสริมสร้างกำลังกองทัพ รวมถึงเสริมศักยภาพของยุทโธปกรณ์ 

เช่นเดียวกับงบของ กองทัพเรือ ที่ควรชะลองบประมาณ กว่า 1.4 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมศักยภาพการป้องกันประเทศ 

ขณะที่ กองทัพอากาศ ควรชะลองบรวม 1.8 หมื่นล้านบาท ที่ใช้เพื่อเตรียมพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อนำไปจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 และซื้อครุภัณฑ์ทางการศึกษาให้กับนักเรียน จำนวน 12 ล้านคน 

 

อย่างไรก็ดี มองว่ากรณีที่นำเข้าวัคซีนล่าช้า เพราะรัฐบาลประมาท ผูกขาดวัคซีน รวมถึงพบการตั้งกำแพงเรียกค่าหัวคิวฉีดวัคซีน โดสละ 500 - 1,000 บาท

“รัฐบาลจงใจถ่วงปัญหา เพื่อหาประโยชน์จากการครองอำนาจ รวมถึงผูกขาดนำเข้าวัคซีน เพื่อหาเหตุของการกู้เงิน และอ้างประชาชน ส่วนใหญ่ลงทุน เพื่อคอร์รัปชัน มีการซื้อเสียงล่วงหน้า ทั้งนี้ ครม.ไร้ความสามารถหารายได้ เก่งแต่กู้ ไม่สามารถแก้ปัญหาโควิดได้ ทำให้ประเทศและประชาชนเสียหาย และทำให้ประะชาชนสิ้นหวังอยากตายเพียงแค่เห็นชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี” นายมงคลกิตติ์ ระบุ

นายมงคลกิตติ์ อภิปรายอีกว่า ในปี 2565 คาดว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะใช้เงินกู้รวมทั้งหมด 11.085 ล้านล้านบาท จากกฎหมายกู้เงิน  2 ปีที่ผ่านมา และเป็นไปได้ว่าในปลายปี 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จะเสนอต่อสภาฯ และวุฒิสภา เพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 เพื่อขยับเพดาน จาก 60% เป็น 80% เหมือนสหรัฐอเมริกา 

                                                      “มงคลกิตติ์”แฉกลางสภามีค่า“หัวคิวฉีดวัคซีนโควิด"โดสละ 500-1,000 บาท

“ผมขอตั้งฉายาให้รัฐบาลว่า รัฐบาลชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะ 3 ปีงบประมาณที่ผ่านมา รัฐบาลใช้เงินไปกว่า  9.85 ล้านล้าน ขณะที่การจัดเก็บรายได้ อยู่ที่  7.793 ล้านล้านบาท  ขาดดุลปกติ 1.792 ล้านล้านบาท บวกกับ พ.ร.ก.กู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาท  รวมแล้ว รัฐบาลกู้เงินไปกว่า 3.292 ล้านล้านบาท ภายใน 2 ปี สถานการณ์ของรัฐบาลไม่สามารถจัดหารายได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาโควิด-19 และไม่สามารถจัดเก็บรายได้จากธุรกิจผิดกฎหมาย รวมถึงเงินทุจริตคอร์รัปชั่นจากบ้านนักการเมือง” นายมงคลกิตติ์ ระบุ